FDI

Foreign Business License หรือใบอนุญาต FBL ต้องทำอย่างไรให้ง่าย ต่างชาติถือหุ้น 100% ได้หรือไม่ ?

Foreign Business License (FBL) หรือ การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ  คืออะไร ? สำหรับ FBL ก็คือ คือใบอนุญาตที่อนุญาตให้บริษัทต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทยในลักษณะที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ซึ่งใบนี้เป็นการอนุมัติที่ออกให้แก่บริษัทต่างชาติที่มีการยื่นขออนุญาตและได้รับการอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์  โดยจะมีข้อจำกัดบางประการ ในการประกอบธุรกิจบางประเภทที่อนุญาตให้เฉพาะคนไทยเท่านั้น และห้ามต่างชาติประกอบธุรกิจ ประเภทของธุรกิจที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติฯ  ธุรกิจบางประเภทจะสงวนให้ไว้เฉพาะคนไทย ตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการขอรับในอนุญาตของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 บัญชีที่ 1 เป็นธุรกิจที่ห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจด้วยเหตุผลพิเศษ บัญชีที่ 2 ธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือความมั่นคงของประเทศหรือมีผลกระทบต่อศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณีหัตกรรมกรรมพื้นบ้านหรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคนต่างด้าวจะ ประกอบธุรกิจได้ เมื่อได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีโดยการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี บัญชีที่ 3 ธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนคนต่างด้าว คนต่างด้าวจะประกอบธุรกิจได้เมื่อได้รับอนุญาตจากอธิบดีโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว คำจำกัดความของคนต่างด้าว ตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ห้ามคนต่างด้าวประกอบธุรกิจบางประเภท และบางประเภทจะประกอบธุรกิจได้ต่อเมื่อได้รับใบอนุญาตหรือได้รับหนังสือรับรองแล้วแต่กรณี คำจัดความของคนต่างด้าว ตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว บุคคลที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย นิติบุคคลที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย นิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งเป็นของบุคคลหรือนิติบุคคลตาม (1) หรือ (2) นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่มีทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งของ (1)(2) หรือ (3) โดยสามารถอ่านรายละเอียดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เพิ่มเติมได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า  ซึ่งถ้าหากเป็นต่างชาติมาทำธุรกิจ อาชีพสงวนคนไทย จะมีความผิดตามกฏหมายไทย ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดข้อมูลหรือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านขอใบอนุญาตในการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยอย่าง FDI Group เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น   ต่างชาติถือหุ้น 100 % ได้หรือไม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง ? ต่างชาติสามารถถือหุ้น 100% ได้ แต่มีข้อกำหนดทางกฏหมายที่ต้องจดทะเบียน ยื่นขอใบอนุญาตให้ถูกต้องก่อน ในกรณีที่ต่างชาติต้องการจดทะเบียนนิติบุคคลในไทย โดยถือหุ้น 100 % สามารถทำได้อย่างถูกกฏหมายโดย 1.การยื่นขอ Foreign Business License (FBL) หรือ การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ 2.การยื่นขอการส่งเสริมการลงทุน (BOI : The Board of Investment of Thailand) เพื่อขอยื่นหนังสือรับรองประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติได้ 3.ตามกฏหมายมาตรา 11 ข้อตกลงที่ไทยเป็นภาคี หรือพันธกรณี หรือนักธุรกิจต่างชาติที่อยู่ภายใต้สนธิสัญญาต่าง ๆ ก็สามารถยื่นขอหนังสือรับรองในการประกอบธุรกิจสำหรับชาวต่างชาติได้เช่นกัน ตัวอย่างใบอนุญาต ปรึกษาเรา ผู้เชี่ยวชาญในการจดจดจัดตั้งบริษัทสำหรับต่างชาติในไทย คลิ๊ก […]

ใหม่ล่าสุด 2025 ! อัพเดตการเข้าเมืองสำหรับชาวต่างชาติ บัตรการเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย (TDAC) แทนแบบฟอร์มการเข้าเมือง TM6

TDAC คืออะไร ? ทำไมต้องส่งข้อมูลบัตรก่อนเข้าประเทศไทย 3 วัน !  วันนี้ FDI ชวนทุกท่านทำความรู้จักกับ TDAC ซึ่งเป็นบัตรการเข้าประเทศดิจิทัลแบบใหม่ที่จำเป็นต้องรู้ก่อนเดินทางเข้าสู่ราชอาณาจักรไทย โดยบทความนี้จะชวนไขข้อสงสัยว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ที่สำคัญขั้นตอนการกรอกข้อมูลนั้นจะต้องกรอกรายละเอียดแบบไหนให้ถูกต้อง ติตตามได้ในบทความนี้  สำหรับ TDAC ย่อมาจาก Thailand Digital Arrival Card หรือ บัตรเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งได้ให้ชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาประเทศไทยกรอกข้อมูลเอกสารการเดินทาง ก่อนเดินทางเข้าสู่ราชอาณาจักรไทย ชาวต่างชาติควรส่งข้อมูลบัตรเข้าประเทศภายใน 3 วันก่อนถึงประเทศไทย รวมถึงวันที่เข้าประเทศ ซึ่งเริ่มบังคับใช้เมื่อ 1 พฤษภาคม 2568 ทีผ่านมา  ซึ่ง TDAC จะช่วยให้ขั้นตอนการเข้าประเทศไทยนั้นสะดวกมากขึ้น  บัตรการเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย (TDAC) จะเป็นแบบฟอร์มออนไลน์ที่ได้แทนที่บัตรแบบเดิมในการเข้าประเทศ TM6 แบบกระดาษ ซึ่งจะช่วยให้ความสะดวกสบายสำหรับชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้าสู่ราชอาณาจักรไทยไม่ว่าจะทางอากาศ, ทางบก, หรือทางทะเล  TDAC จะใช้เพื่อส่งข้อมูลการเข้าประเทศและรายละเอียดการประกาศสุขภาพก่อนมาถึงไทย ตามที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย ซึ่งต้องส่งข้อมูลบัตรเข้าประเทศภายใน 3 วันก่อนถึงประเทศไทย รวมถึงวันที่เข้าประเทศ ซึ่งจะทำให้มีเวลาเพียงพอในการดำเนินการและตรวจสอบข้อมูลที่ให้ไว้ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนั่นเอง ใครบ้างที่ต้องส่ง TDAC ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย จะต้องส่ง Thailand Digital Arrival Card (TDAC) ก่อนการเดินทาง โดยมีข้อยกเว้นดังต่อไปนี้  ชาวต่างชาติที่ผ่านหรือต่อเครื่องในประเทศไทยโดยไม่ต้องผ่านการควบคุมคนเข้าเมือง ชาวต่างชาติที่เข้าประเทศไทยโดยใช้บัตรผ่านแดน  จะสามารถยื่นข้อมูลบัตรได้อย่างไร ชาวต่างชาติสามารถเข้าถึงเว็บไซต์สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ http://tdac.immigration.go.th  โดยที่ระบบจะมีตัวเลือกให้ส่งข้อมูลจำนวน 2 แบบ ได้แก่ การส่งแบบบุคคล – สำหรับนักเดินทางเดี่ยว การส่งกลุ่ม – สำหรับครอบครัวหรือกลุ่มที่เดินทางด้วยกัน ซึ่งชาวต่างชาติสามารถอัพเดทข้อมูลก่อนการเดินทางในการเปลี่ยนแปลงได้ตามต้องการ  ขั้นตอนการยื่นข้อมูล TDAC ประโยชน์ของระบบ TDAC การเปลี่ยนมาใช้ระบบ TDAC มีข้อดีหลายประการเมื่อเปรียบเทียบกับแบบฟอร์ม TM6 แบบเดิม เช่น  การตรวจคนเข้าเมืองที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น  ลดขั้นตอน ลดเอกสารและการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้สะดวกในการจัดการมากขึ้น มีความแม่นยำ และความปลอดภัยของข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ติดตามข้อมูลผู้เดินทางในด้านวัตถุประสงค์ด้านสาธารณสุข เป็นการบูรณาการเพื่อส่งเสริมให้ผู้เดินทางเข้าสู่ราชอาณาจักรไทยมีความราบรื่นและสัมผัสประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น  เป็นการสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนในการลดการใช้ทรัพยากร  โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและข้อมูลที่สำคัญได้ที่ : บัตรการเข้าประเทศดิจิทัลของประเทศไทย (TDAC)   ต้องการปรึกษาด้านการขอวีซ่า ใบอนุญาตทำงาน การลงทุนในประเทศไทย    FDI […]

วิธีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ใบ ภ.พ. 20 ต้องทำอย่างไร ?

 ใบ ภ.พ. 20 คืออะไร สำคัญอย่างไรสำหรับคนทำธุรกิจ   การจดทะเบียนภ.พ. 20 คือ กระบวนการที่ผู้ประกอบการธุรกิจยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กับ กรมสรรพากร เพื่อให้ธุรกิจของตนได้รับการยอมรับตามกฎหมายในการจัดเก็บและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม  เหมาะสำหรับธุรกิจและกิจการที่มีรายได้เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี  ใบ ภ.พ. 20 คืออะไร  ใบ ภ.พ. 20 เป็นใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นเอกสารหลักฐานสำคัญที่แสดงว่าบริษัทนั้นได้จด Vat หรือเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว นั่นหมายความว่าผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องมีหน้าที่เพิ่มเติมดังนี้ ยอดขายทุกๆรายการที่เกิดขึ้นจะต้องคิด Vat 7% และนำส่งภาษีขายให้แก่กรมสรรพากร ภาษีซื้อที่เกิดจากยอดซื้อต่างๆ บริษัทต้องเก็บใบกำกับภาษีเอาไว้ เพื่อเป็นหลักฐานในการเครดิตภาษี (คือการนำภาษีซื้อมาหักออกจากภาษีขาย) จะต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มโดยใช้แบบ ภพ.30 เป็นประจำทุกเดือน ตัวอย่าง บริษัท AAA จำกัด มียอดขายทั้งเดือนที่ 10,000 บาท มีภาษีขาย 7% คือ 700 บาท และบริษัทมียอดซื้อทั้งเดือนที่ 8000 บาท มีภาษีซื้อที่ 7% ที่ 560 บาท ดังนั้นยอดที่ทางบริษัทต้องนำส่ง ภพ 30 ให้แก่กรมสรรพากรคือ 700 – 560 = 140 บาท นั่นเอง แต่หากภาษีขาย น้อยกว่า ภาษีซื้อ ยอดที่ติดลบสามารถนำมาเป็นเครดิตภาษีใช้ในเดือนถัดไปได้ ข้อมูลที่มีใน ใบ ภ.พ. 20 มีรายละเอียดที่สำคัญอะไรบ้าง  คำว่า ภพ 20 ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร  ชื่อผู้ประกอบการ ชื่อสถานประกอบการ เลือกแสดงว่าเป็นสำนักงานใหญ่ หรือสาขา ที่อยู่ของบริษัท เบอร์ติดต่อของบริษัท วันที่ให้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ชื่อและตำแหน่งเจ้าหน้าที่สรรพากรของผู้ออกทะเบียนนี้ เพิ่มเติม : ตัวอย่าง ใบ ภ.พ. 30  FDI ให้บริการขอใบอนุญาตนี้เช่นเดียวกัน วิธีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม  การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในประเทศไทยเป็นกระบวนการที่ผู้ประกอบการธุรกิจต้องดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายภาษีอากร และเพื่อความสะดวกในการจัดเก็บและนำส่งภาษี หากคุณต้องการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถปรึกษา FDI เพื่อรับคำปรึกษาและช่วยดำเนินการได้ด้วยความสะดวกครบครัน พร้อมค่าบริการที่เหมาะสม […]

การประเมิน CFP หรือ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ ต้อง “ รายงานอย่างไร ทำอย่างไร” ให้ตอบโจทย์ธุรกิจ

CFP ย่อมาจาก Carbon Footprint for Product หรือ การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ ธุรกิจจำเป็นที่ต้องทำหรือเป็นเพียงกระแส ? แนวคิดเรื่องความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ได้กลายเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญระดับโลก หนึ่งในกระบวนการที่กำลังได้รับความสนใจและถูกหยิบยกขึ้นมาใช้ในภาคธุรกิจอย่างแพร่หลาย คือ “การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์” หรือ Carbon Footprint for Products (CFP) แต่คำถามที่หลายคนมีการตั้งคำถามขึ้นคือ การประเมินนี้เป็นเรื่องจำเป็นที่ธุรกิจควรดำเนินการจริงจัง หรือเป็นเพียงแค่กระแสชั่วคราวที่เกิดจากแรงกดดันทางสังคมและการตลาดเท่านั้น ? ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดย FDI Group ให้ความเห็นว่า “ ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ภาวะโลกเดือดรุนแรงขึ้น เป็นผลกระทบมาจากการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์และจากธรรมชาติ เชื่อว่าทุกท่านคงสัมผัสได้ด้วยตัวท่านเองทั้งสภาพภูมิอากาศที่ย่ำแย่ หรือเปลี่ยนแปลงไป หรือแม้แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตอย่างเห็นได้ชัด เลยเป็นอีกสิ่งที่ชวนให้คิด ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่คุณต้องหันกลับมาดูแลโลกใบนี้ ?   ธุรกิจจำนวนมาก เริ่มให้ความสำคัญกับการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ประเด็นทางด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับแนวโน้มของตลาดโลกที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งการสนับสนุนธุรกิจ ผลิตภัณฑ์สินค้าที่ส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม ที่มีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงประเด็นที่น่าจับตาถึงการตั้งข้อกำหนดด้านความยั่งยืนจากประเทศคู่ค้า หรือการบังคับใช้มาตรการทางภาษีและกฎระเบียบใหม่ เช่น กลไกการปรับคาร์บอนตามพรมแดนของสหภาพยุโรป (CBAM) ซึ่งกำหนดให้สินค้านำเข้าจากประเทศนอก EU ต้องแสดงค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างชัดเจน หากไม่สามารถแสดงได้หรือค่าคาร์บอนสูงเกินมาตรฐาน อาจถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้น หรือไม่สามารถเข้าสู่ตลาดยุโรปได้เลย สำหรับในประเทศไทยก็เตรียมสู่การบังคับใช้ พ.ร.บ.โลกร้อน ที่คาดว่าจะบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ หรือที่เห็นได้ชัดเจนถึงแนวทางนโยบายด้านการส่งเสริมลดการปล่อยคาร์บอนอย่าง การเก็บภาษีคาร์บอนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งจากประเด็นด้านต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นคงได้เห็นถึงทิศทางและโอกาสที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้สำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ สำหรับการปรับตัว ปรับรูปแบบการดำเนินงานในองค์กร เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในการแข่งขันที่ทิศทางธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงไปจากนี้  Carbon Footprint for Product หรือ การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ คืออะไร อ่านต่อในบทความนี้ คลิก !  จริงหรือไม่ ? เริ่มประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ก่อนได้เปรียบมากกว่า ! ต้องบอกว่าจริง “ลองมองมุมกลับว่าถ้าหากเราเริ่มก่อนในตอนนี้ ถ้าวันที่ภาครัฐประกาศบังคับใช้หรือให้ทำ ธุรกิจเราจะไปไกลมากขนาดไหนแล้ว ถ้าหากคนอื่นพึ่งเริ่ม” เพียงเท่านี้ก็น่าจะสามารถตอบข้อสงสัยได้ว่าควรทำเลยหรือไม่ สำหรับองค์กรต่าง ๆ และ ผู้ประกอบการที่มีความพร้อม และถ้าหากวิเคราะห์กันในมุมของความได้เปรียบทางการแข่งขัน การมีข้อมูล CFP อย่างโปร่งใส สามารถกลายเป็นจุดแข็งในโอกาสของการสื่อสารแบรนด์ และสร้างความเชื่อมั่นต่อคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ที่สำคัญคือผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่อยู่ในตลาดระดับพรีเมียมหรือเป็นสินค้าที่อิงกับภาพลักษณ์ด้านความยั่งยืน เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ , เครื่องสำอางจากธรรมชาติ , […]

จดทะเบียนบริษัทต่างชาติในไทยต้องทำอย่างไร ? FDI บริการครบจบในที่เดียว!

จดทะเบียนบริษัทต่างชาติทำธุรกิจในไทย ต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ต้องส่งผลดีต่อประเทศไทยและคนไทย ทั้งในการลงทุน การจ้างงาน การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ รวมถึงด้านอื่นๆ ในเริ่มต้นการประกอบธุรกิจในประเทศไทย ต้องเป็นธุรกิจที่ถูกกฏหมาย และเป็นไปตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่ห้ามคนต่างด้าวประกอบธุรกิจบางประเภท และบางประเภทจะประกอบธุรกิจได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตหรือได้รับหนังสือรับรองแล้วแต่กรณี  ลำดับถัดมาหากมีการลงทุนโดยนักลงทุนต่างชาติ ต้องพิจารณาว่าเป็นการลงทุนแบบใด ถือหุ้นไม่เกิน 49% หรือเกิน 50 % ขึ้นไป เพราะหากเป็นกรณีต่างชาติถือหุ้นมากกว่า 50% ขึ้นไปหรือข้างมาก จะมีการดำเนินขอเอกสาร ขั้นตอนการจดทะเบียนมากขึ้น แต่ขั้นตอนเหล่านั้น รวมถึงดำเนินเอกสารจะเป็นเรื่องง่าย หากคุณปรึกษาเรา ให้ FDI ช่วยดำเนินการให้ !   รูปแบบการจดทะเบียนบริษัทโดยมีผู้ถือหุ้นต่างชาติ และคนไทยถือหุ้นร่วมกัน ต้องรู้ !! การจดทะเบียนบริษัทต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป  อ่านต่อการยื่นขอ FBL , BOI ที่คุณต้องรู้ สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท  โดยมีผู้ถือหุ้นเป็นชาวต่างชาติจะมี 2 กรณีด้วยกันคือ  1.กรณีถือหุ้นไม่เกิน 49% กรณีนี้จะถือว่าเป็นบริษัทสัญชาติไทย สามารถดำเนินกิจการได้ในทุกประเภท และต้องหาหุ้นส่วนคนไทยเพื่อถือหุ้นข้างมากด้วย กรณีนี้สามารถดำเนินการได้มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เพราะอัตราส่วนในการถือหุ้นน้อยกว่าคนไทยนั่นเอง 2.กรณีถือหุ้นเกิน 50% กรณีนี้บริษัทจะถือว่าเป็นบริษัทต่างชาติ เพราะต่างชาติถือหุ้นข้างมาก ซึ่งต้องมีการขอใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว (FBL)  หรือ BOI รวมถึงข้อกำหนด ข้อจำกัดทางกฏหมายที่ห้ามคนต่างด้าวประกอบธุรกิจบางประเภท หรือห้ามประกอบธุรกิจนอกจากได้รับอนุญาต ในบัญชี 2 และ 3 ของ พ.ร.บ. แต่หากได้รับ BOI จะมีสิทธิประโยชน์บางอย่างเพิ่มเติม ต่างชาติ หากจะถือหุ้น 100 % ทำได้หรือไม่ ? คนต่างชาติไม่สามารถถือหุ้น 100% ในบริษัทไทยได้ หากธุรกิจนั้น ๆ อยู่ในประเภทที่มีข้อจำกัดตาม พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (FBA)  แต่สามารถถือหุ้น 100% ได้ในกรณีที่  ได้รับการส่งเสริมจาก BOI หรือ ลงทุนในพื้นที่หรือธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย หรือ ลงทุนในธุรกิจที่ไม่อยู่ในหมวดหมู่ที่มีข้อจำกัด โดยการลงทุนในลักษณะเหล่านี้ ต้องมีการดำเนินการขออนุญาตหรือยื่นคำร้องเพื่อขอสิทธิพิเศษจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ หรือ BOI ซึ่งการดำเนินงานและเอกสารการยื่นสามารถปรึกษาเราให้คำปรึกษาเชิงลึกด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ได้โดยตรง  จดทะเบียนบริษัทจำกัดสำหรับชาวต่างชาติ ต้องรู้จักกับ […]

ตอกย้ำภาพ FDI ส่งเสริมการศึกษา ! จาก MOU สู่การเป็นอาจารย์พิเศษประจำหลักสูตรการจัดการทรัพยากรมนุษย์แบบญี่ปุ่น

ความร่วมมือทางวิชาการ TNI – FDI Group ในหลักสูตรการจัดการทรัพยากรมนุษย์แบบญี่ปุ่น   จากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง บริษัท จัดหางาน เอฟ ดี ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่มบริษัท เอฟดีไอ และสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น วันที่ 14 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมาครั้งนั้น  FDI Group ในฐานะองค์กรธุรกิจที่เป็นการร่วมทุนไทย – ญี่ปุ่น ซึ่งได้เปิดให้บริการอย่างยาวนานมากกว่า 30 ปีในประเทศไทย จากวิสัยทัศน์ขององค์กรที่เรามุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการพัฒนาทรัพยากรที่มีคุณค่านั่นก็คือ ทรัพยากรมนุษย์ เรามีความพร้อมที่อยากจะส่งต่อคุณค่าที่ดีให้กับสังคมไทย ด้วยการส่งเสริมการศึกษา ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้เรียน เกิดการพัฒนาครบในหลากหลายมิติ   ในโอกาสที่สำคัญนี้ เราได้รับเกียรติจากทางสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น โดยคุณพัชราภรณ์ เวชวิทยาขลัง ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท เอฟ ดี ไอ ให้การสนับสนุนร่วมเป็นอาจารย์พิเศษ ในหลักสูตรการจัดการทรัพยากรมนุษย์แบบญี่ปุ่น เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ การคิดอย่างเป็นระบบในการทำงานแบบญี่ปุ่น ในหลักสูตรดังกล่าวด้วย ความน่าสนใจของหลักสูตร สำหรับหลักสูตรการจัดการทรัพยากรมนุษย์แบบญี่ปุ่น เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจ โดยได้นำแนวคิดและวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น มาใช้เป็นแนวของการเรียนการสอน เพื่อให้ผลิตบัณฑิตได้ตรงกับสถานประกอบการสัญชาติญี่ปุ่นและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีความต้องการบัณฑิตที่มีวินัย มีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ทำงานเป็นทีม มีภาวะผู้นำ โดยหลักสูตรมีอัตลักษณ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางการผลิตบัณฑิต ให้เกิดโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาตนเองจากผู้ทรงคุณวุฒิในองค์กรธุรกิจ สัญชาติญี่ปุ่น โดยผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :  www.tni.ac.th/ba/major_hrj ช่องทางติดต่อสถาบันเทคโนโลยีไทย – ญี่ปุ่น • Tel. 0-2763-2600 Fax. 0-2763-2700• Website : www.tni.ac.th• E-mail : tniinfo@tni.ac.th “ FDI Group ร่วมสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพราะเราเชื่อว่าหนึ่งการส่งต่อที่มอบคุณค่าด้วยความรู้ ล้วนแล้วแต่นำไปสู่การสร้างสรรค์คุณค่าที่ดีต่อสังคมเสมอ “ ช่องทางติดต่อ FDI Group Facebook : FDI Group – Business Consulting Line : @fdigroup Phone : […]

FDI Group สืบสานประเพณีสงกรานต์ ร่วมสรงน้ำพระและรดน้ำขอพรผู้บริหาร

FDI Group ร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทย เทศกาลสงกรานต์ 2568 เมื่อเข้าสู่ เทศกาลสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและพักผ่อนแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่สำคัญแห่งการแสดงความห่วงใย ความกตัญญูต่อผู้ใหญ่ และเป็นการขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิต ในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ” กลุ่มบริษัทเอฟ ดี ไอ และบริษัทในเครือ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมสระน้ำพระ และรดน้ำขอพรผู้บริหาร “ ซึ่งในปีนี้ได้จัดงานขึ้นอย่างเรียบง่าย ภายใต้แนวคิด ” เชื่อมสายใย เชื่อมใจแห่งรัก และเติบโตไปพร้อมกัน ”  ที่สะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ของผู้บริหารและพนักงานทุกท่าน โดยในงาน ประกอบด้วยกิจกรรมสรงน้ำพระและรดน้ำดำหัวผู้บริหาร คุณพัชราภรณ์ เวชวิทยาขลัง ประธานบริษัท กลุ่มบริษัท เอฟ ดี ไอ  เพื่อความเป็นสิริมงคลและสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ซึ่งกิจกรรมนี้ บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความอบอุ่น ความสนุกสนาน โดยทางคุณพัชราภรณ์ เวชวิทยาขลัง ประธานบริษัท กลุ่มบริษัท เอฟ ดี ไอ  โดยผู้บริหารได้กล่าวอวยพร พนักงานทุกท่าน  และขอถือโอกาสนี้ อวยพรให้ทุกท่าน พันธมิตร บริษัทต่าง ๆ มีความสุขในวันปีใหม่ไทย มีความสุขสดใส เดินทางปลอดภัยตลอดปีตลอดไป กิจกรรมในครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงการให้ความสำคัญกับ วัฒนธรรมและประเพณีไทย เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความตั้งใจ ในการดำเนินธุรกิจ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กร เพราะพนักงานทุกท่าน ล้วนคือคนสำคัญในองค์กร ที่มีความสำคัญยิ่งในการทำงานเพื่อการเติบโตไปพร้อมกันอย่างมั่นคง  FDI Accounting & Advisory ที่ปรึกษาทางธุรกิจอย่างครบวงจร ง่าย ครบ จบ ในที่เดียว ทุกธุรกิจเติบโตได้ ง่ายนิดเดียว! เพียงปรึกษา FDI บริการครบ ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์เชิงลึกในหลากหลายธุรกิจ ตอบโจทย์ในทุกธุรกิจ ทันสมัย รวดเร็ว บริการทุกท่านด้วยความยินดี เราพร้อมที่จะมอบประสบการณ์และส่งต่อคุณค่าที่ดีที่สุดให้กับทุกท่าน ช่องทางติดต่อ Facebook : FDI Group – Business Consulting Line : @fdigroup Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895 E-mail […]

FDI Group ร่วมสนับสนุนงาน NAC 2025 และร่วมให้คำปรึกษา คนร่วมงานหลายพันคน เน้นย้ำ! มุ่งพัฒนา AI ขับเคลื่อนประเทศไทยที่ยั่งยืน

สวทช. จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กับงาน AI แห่งปี  NAC 2025  ผู้เข้าร่วมชมงานหลายพันคน !  เมื่อวันที่ 26 – 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา สวทช. พร้อมหน่วยงานหลักร่วมกันจัดงาน ประชุมวิชาการ NAC 2025 ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย AI เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน (AI-driven Science and Technology for Sustainable Thailand) ซึ่งเน้นย้ำถึงศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เป็นปัจจัยในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย เพราะ AI ไม่เพียงช่วยเร่งการดำเนินงานและการตัดสินใจที่แม่นยำขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานที่สำคัญของนวัตกรรม ซึ่งจะยกระดับความสามารถของประเทศไทยในเวทีโลกได้  มีผู้ที่สนใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้าร่วมชมงานและร่วมสัมมนาในหัวข้อต่าง ๆ อย่างล้นหลาม เต็มอิ่มความรู้ FDI ร่วมให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน  โดยภายในงานตลอดทั้ง 3 วัน FDI Group มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน NAC2025 ซึ่งเราได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ร่วมให้คำปรึกษา แนะนำแนวทาง และหาคำตอบให้ผู้ประกอบการ โดยผู้เชี่ยวชาญ คุณนันทพัชร ณ สงขลา (Business Development Manager ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน) ที่ Advisory Clinic ร่วมออกบูธ ให้คำแนะนำในการวางแผนประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO) และ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (CFP) , การวางแผนคาร์บอนเครดิต,การทำรายงาน ESG และ Maturity Assessment , การวางแผนการทำ BCM – BCP การจัดการรับมือกับความเสี่ยงขององค์กร รวมถึงบริการด้านอื่น ๆ ของเรา พร้อมกิจกรรมอื่น ๆ ที่ช่วยไขข้อสงสัยให้ผู้ประกอบการ นักวิจัย และผู้สนใจได้เป็นอย่างดี กิจกรรมสำคัญภายในงานที่จัดขึ้นได้อย่างน่าสนใจ ที่ปีหน้าคุณต้องมางานนี้ !!  งานประชุมวิชาการ NAC 2025 มุ่งเน้นการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) […]

ทุนจดทะเบียนบริษัทมีความสำคัญ การวางกลยุทธ์และขั้นตอนที่ควรรู้มีอะไรบ้าง !!

ทุนจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทยนั้น เป็นส่วนสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจ เนื่องจากเป็นการแสดงถึงความสามารถทางการเงินของบริษัทและช่วยให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น การกำหนดทุนจดทะเบียนมีข้อกำหนดที่ชัดเจนตามประเภทของบริษัท และมีการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างมีความสมดุลทางการเงิน ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับจำนวนทุนจดทะเบียนและพิจารณาให้รอบคอบตามลักษณะของกิจการที่ต้องการดำเนินการ ในบทความนี้ FDI จะพาทำความเข้าความเข้าใจมากขึ้นในเรื่องของทุนจดทะเบียน การเพิ่มทุนจดทะเบียน หรือข้อมูลสำคัญในการจดทะเบียนบริษัทด้านอื่น ๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด  ทุนจดทะเบียนมีความสำคัญต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง  สำหรับทุนจดทะเบียน เป็นจำนวนเงินทุนที่ผู้ถือหุ้น ตกลงกันว่าจะนำมาใช้ในการเริ่มต้นธุรกิจ โดยแสดงเป็นจำนวนเงินที่ระบุไว้ในหนังสือบริคณฑ์สนธิ และหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ซึ่งจะปรากฏต่อสาธารณชน โดยจะต้องแจ้งจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เงินทุนจำนวนนี้ บริษัทสามารถนำไปใช้ในการดำเนินงาน ลงทุน ขยายกิจการ หรือชำระหนี้สินได้ แสดงถึงความมั่นคงทางการเงินและความสามารถของการขยายกิจการ ทุนจดทะเบียนที่สูงช่วยแสดงถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจและการชำระหนี้ ซึ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทในสายตาของลูกค้าและผู้ลงทุน รวมถึงช่วยให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอในการซื้อสินทรัพย์และลงทุนในการขยายธุรกิจ กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้นในกรณีที่บริษัทมีหนี้สิน ผู้ถือหุ้นจะรับผิดชอบชดใช้หนี้สิน แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ตนได้ลงทุนในบริษัท ใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อจากธนาคาร และเป็นพื้นฐานในการขอสินเชื่อ บริษัทที่มีทุนจดทะเบียนสูงสามารถเพิ่มโอกาส ในการขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้น  เนื่องจากธนาคารมักพิจารณาทุนจดทะเบียน ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ ในการพิจารณาสินเชื่อ  แสดงการจัดการที่เป็นระบบ การมีทุนจดทะเบียนที่ชัดเจนช่วยให้ธุรกิจมีโครงสร้างการเงินที่ดีและสามารถวางแผนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อข้อกำหนดทางกฎหมาย  ทุนจดทะเบียนเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตามสำหรับการจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย ซึ่งช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามกฎเกณฑ์และไม่เกิดปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง ติดต่อ FDI ที่ @fdigroup   ขอรับคำปรึกษาเชิงลึกในการจดทะเบียนบริษัท กฏหมายระบุกำหนดทุนจดทะเบียนขั้นต่ำไว้อย่างไร จะมีข้อแตกต่างและข้อกำหนดของแต่ละการจดทะเบียนต่างกันดังนี้  บริษัทจำกัด : ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 10 บาท โดยหุ้นสามัญต้องมีมูลค่า ไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 5 บาท และ ต้องมีผู้ถือหุ้น ไม่ต่ำกว่า 2 คน ห้างหุ้นส่วนจำกัด : ทุนจดทะเบียนไม่มีขั้นต่ำ แต่ต้องมีหุ้นส่วน ไม่ต่ำกว่า 2 คน ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล : ทุนจดทะเบียนไม่มีขั้นต่ำ แต่ต้องมีหุ้นส่วน ไม่ต่ำกว่า 2 คน บริษัทมหาชนจำกัด : ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 5 ล้านบาท หุ้นสามัญต้องมีมูลค่า ไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 10 บาท  และต้องมีผู้ถือหุ้น ไม่ต่ำกว่า 15 คน ปัจจัยในการวางกลยุทธ์เพื่อการจัดสรรทุนจดทะเบียน กลยุทธ์ในการจัดสรรทุนจดทะเบียนมีความสำคัญอย่างยื่ง เพราะมีผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน การดำเนินธุรกิจ และภาพลักษณ์ของบริษัท ซึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อจัดสรรทุนจดทะเบียนให้เป็นไปอย่างมัประสิทธิภาพมากขึ้น โดยพิจารณาได้ดังนี้  1. การกำหนดทุนจดทะเบียนให้เหมาะสมกับขนาดและประเภทของธุรกิจ ธุรกิจขนาดเล็กหรือสตาร์ทอัพ : ควรเริ่มต้นด้วยทุนจดทะเบียนที่พอดีกับการดำเนินธุรกิจ และควรจะมีเงินสำรองเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ธุรกิจขนาดใหญ่ […]

ยอดขายหรือรายได้ไม่ถึง 1.8 ล้านบาท ต้องยื่นภพ 30 หรือไม่ ? ยื่นแบบไหนได้บ้าง

ภพ 30 คืออะไร ? ใครมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภพ 30 คือ แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ผู้ประกอบการหรือธุรกิจในประเทศไทยต้องยื่นต่อกรมสรรพากร เพื่อรายงานยอดขาย ยอดซื้อ และภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน โดยภพ 30 จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับภาษีขายและภาษีซื้อ แต่ละแบบต่างกัน คือ  ภาษีขาย (Output VAT) คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากลูกค้าจากการขายสินค้าและบริการ ภาษีซื้อ (Input VAT) คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จ่ายให้กับซัพพลายเออร์เมื่อซื้อสินค้าและบริการ ใครมีหน้าที่ต้องยื่นภพ 30 บ้าง ? ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Registered) ซึ่งได้แก่ ธุรกิจที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ผู้นำเข้าสินค้า  ที่ต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อสินค้าผ่านศุลกากร ผู้ประกอบการที่ให้บริการในต่างประเทศแต่ใช้ในประเทศไทย  เช่น การซื้อบริการโฆษณาออนไลน์จากต่างประเทศ กำหนดเวลาการยื่น ต้องยื่นภายในวันไหน  ภพ 30 ต้องยื่นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยสามารถยื่นได้ทั้งแบบ ออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร และ แบบกระดาษ ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่  การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มในภพ 30 สอนวิธีคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในภพ 30 พร้อมตัวอย่างการคำนวณที่เข้าใจง่าย วิธีคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในภพ 30การคำนวณ VAT ในภพ 30 จะพิจารณาจาก 2 ส่วนหลัก คือ ภาษีขาย (Output VAT) และ ภาษีซื้อ (Input VAT) โดยมีวิธีการคำนวณดังนี้  1. ภาษีขาย (Output VAT) คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บจากลูกค้าเมื่อขายสินค้าและบริการ โดยคำนวณจาก 2. ภาษีซื้อ (Input VAT) คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จ่ายให้กับซัพพลายเออร์เมื่อซื้อสินค้าและบริการ โดยสามารถนำมาหักออกจากภาษีขายได้ 3. คำนวณภาษีที่ต้องชำระหรือขอคืน ภาษีที่ต้องชำระ = Output VAT − Input VAT หมายเหตุและข้อควรระวัง: สามารถใช้ […]

1 2 3 23