FDI

”リミッテッド・パートナーシップ Limited Partnership” 登録とは?

การเริ่มต้นธุรกิจเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น แต่การตัดสินใจเลือกประเภทธุรกิจที่เหมาะสมนั้นสำคัญไม่แพ้กัน หนึ่งในรูปแบบธุรกิจที่ได้รับความนิยมคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บทความนี้จะวิเคราะห์ 6 ข้อดี 6 ข้อเสียของการ จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วน จำกัด เปรียบเทียบกับรูปแบบธุรกิจอื่นๆ เช่น บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกประเภทธุรกิจที่เหมาะสม จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วน จำกัด หมายถึง นิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นโดยบุคคล 2 คนขึ้นไป ร่วมลงทุนเพื่อประกอบธุรกิจ โดยมีทุนจดทะเบียนแยกออกจากเงินทุนส่วนตัว หุ้นส่วนแต่ละคนจะรับผิดชอบต่อหนี้สินของห้างหุ้นส่วนจำกัด ในสัดส่วนตามจำนวนเงินทุนที่ลง 6 ข้อดีของการ จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วน จำกัด การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) มีข้อดีมากมาย ดังนี้ 1. ความน่าเชื่อถือ การจดทะเบียนทำให้ห้างหุ้นส่วนเป็นนิติบุคคล แยกออกจากตัวบุคคลของหุ้นส่วน ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือต่อลูกค้า คู่ค้า และนักลงทุน ข้อมูลเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจำกัดจะเปิดเผยต่อสาธารณะผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจรวมถึงแสดงถึงความจริงจังและมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มโอกาสในการได้รับงานใหญ่ ๆ จากหน่วยงานภาครัฐหรือบริษัทใหญ่ ๆ ได้อีกด้วย 2. การจำกัดความรับผิดชอบ หุ้นส่วนประเภทนี้รับผิดชอบเฉพาะจำนวนเงินที่ลงทุน ไม่ต้องนำทรัพย์สินส่วนตัวมาชดใช้หนี้สินของห้างหุ้นส่วน แยกแยะทรัพย์สินส่วนตัวออกจากทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วน ปกป้องทรัพย์สินส่วนตัวของหุ้นส่วนในกรณีที่ธุรกิจเกิดปัญหา และลดความเสี่ยงของบุคคลและครอบครัว 3. การระดมทุน รูปแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมโดยไม่ต้องรับผิดชอบเต็มจำนวน ห้างหุ้นส่วนสามารถออกหุ้นเพิ่มเพื่อระดมทุน หรือหาหุ้นส่วนใหม่เพื่อขยายธุรกิจได้ง่าย สามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้ง่ายขึ้นด้วยสถานะนิติบุคคล เป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ 4. การบริหารจัดการ หุ้นส่วนสามารถแบ่งงานกันตามความถนัดและความเชี่ยวชาญ ช่วยให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ การกำหนดแนวทางและกลยุทธ์ของห้างหุ้นส่วนจะพิจารณาจากเสียงส่วนใหญ่ของหุ้นส่วน มีโครงสร้างการบริหารจัดการที่ชัดเจน 5. สิทธิประโยชน์ทางภาษี ห้างหุ้นส่วนเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล แยกออกจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของหุ้นส่วน และเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าการเสียภาษีในรูปแบบบุคคลธรรมดา สามารถวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านภาษี 6. สิทธิประโยชน์อื่นๆ การเข้าร่วมโครงการภาครัฐ ห้างหุ้นส่วนจำกัดมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสนับสนุนจากภาครัฐได้ง่ายกว่าบุคคลธรรมดา การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนมีความยั่งยืน เนื่องจากสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วน สามารถขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจบางประเภทได้ สามารถฟ้องร้องคดีในนามของ หจก. สามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้ง่ายขึ้น 6 ข้อเสียของการ จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วน จำกัด การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ก็มีข้อเสียเช่นกัน ดังนี้ 1. ขั้นตอนการจดทะเบียน อาจมีขั้นตอนยุ่งยากหากจัดทำด้วยตัวเอง ต้องมีการเตรียมเอกสารและดำเนินการตามกฎหมายหลายขั้นตอน อีกหนึ่งทางเลือกคือ การใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัท FDI Accounting & Advisory พร้อมให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนด้วยประสบการณ์กว่า […]

会社登記に関するQ&A

การจดทะเบียนบริษัทเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการก่อตั้งธุรกิจอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ธุรกิจมีสถานะทางกฎหมายและได้รับการยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ วันนี้ทาง FDI A&A ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัท เพื่อให้ผูประกอบการมือใหม่ทุกท่านได้ไขข้อสงสัยกันค่ะ 1. จดทะเบียนบริษัทดีไหม? การจดทะเบียนบริษัทมีข้อดีหลายประการ เช่น สร้างความน่าเชื่อถือ : บริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย จะดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่าบุคคลธรรมดา เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ : บริษัทสามารถทำธุรกรรมกับหน่วยงานภาครัฐ หรือบริษัทอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น จำกัดความรับผิดชอบ : หนี้สินของบริษัทจะจำกัดอยู่แค่ทุนจดทะเบียน สร้างภาพลักษณ์ที่ดี : บริษัทดูเป็นมืออาชีพ เข้าถึงแหล่งเงินทุน : บริษัทสามารถขอสินเชื่อจากธนาคารได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนบริษัทยังมีข้อเสีย เช่น เสียค่าใช้จ่าย : มีค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ เสียเวลา : ขั้นตอนการจดทะเบียนอาจใช้เวลา มีภาระผูกพัน : บริษัทต้องมีการยื่นภาษี และทำบัญชีอย่างถูกต้อง 2. เลือกประเภทของ การจดทะเบียนบริษัท แบบไหนดี? มีรูปแบบบริษัทหลายแบบในประเทศไทย แต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ประเภทที่พบบ่อย ได้แก่ บริษัทจำกัด : เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง มีการจำกัดความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้น มีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป แบ่งทุนออกเป็นหุ้น บริษัทมหาชนจำกัด : เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ต้องการระดมทุนจากประชาชนทั่วไป มีสมาชิกตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป แบ่งทุนออกเป็นหุ้น บริษัทจำกัดโดยหุ้นส่วน : เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เน้นความสัมพันธ์ส่วนตัว สมาชิกไม่เกิน 50 คน บริษัทต่างประเทศจำกัด : เหมาะสำหรับบริษัทต่างประเทศที่ต้องการประกอบธุรกิจในประเทศไทย 3.จำนวนผู้ร่วมลงทุนเหมาะกับประเภทของ การจดทะเบียนบริษัท แบบไหน? บริษัทจำกัด : เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนคนเดียว หรือมีหุ้นส่วนไม่เกิน 50 คน บริษัทมหาชนจำกัด : เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ต้องการระดมทุนจากประชาชนทั่วไป ห้างหุ้นส่วนจำกัด : เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ 2 คนขึ้นไป ต้องการร่วมลงทุนและรับผิดชอบต่อธุรกิจร่วมกัน ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติ : เหมาะสำหรับหุ้นส่วนที่ต้องการความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ไม่ต้องจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 4. การจดทะเบียนบริษัท มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง? ตรวจสอบชื่อบริษัท เข้าไปที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า https://www.dbd.go.th/ เพื่อสมัครสมาชิก ค้นหาว่าชื่อบริษัทที่ต้องการซ้ำกับบริษัทอื่นหรือไม่ จองชื่อบริษัท โดยสามารถจองได้ […]

視察ツアーご案内
【BCGでタイの経済と社会を変革】

📢 OPEN HOUSE เปิดบ้านสานพลัง ใช้งานวิจัย พลิกโฉมเศรษฐกิจและสังคมไทย ด้วย BCG ลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ !! รับจำนวนจำกัด !! 2 วันเท่านั้น กับกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอกชน และผู้สนใจทั่วไป เข้าชมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อต่อยอดธุรกิจนวัตกรรม วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2567 สำหรับภาคเอกชน เส้นทางใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ✅ เกษตรสมัยใหม่ เพื่อความยั่งยืน ✅ เทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมสัตว์น้ำที่ยั่งยืน ✅ เทคโนโลยีแปรรูปยาง ✅ อาหารเพื่ออนาคต ✅ เกษตรแปรรูป ✅ เครื่องสำอางปลอดภัย ไม่ใช้สัตว์ทดลอง ✅ Wellness Tech เส้นทางสู่ “Thailand Health Hub” ✅ โรงงานสมัยใหม่ เพื่ออุตสาหกรรมยั่งยืน วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 2567 สำหรับบุคคลทั่วไป ✅ Smart Greenhouse โรงเรือนอัจฉริยะ ✅ ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) ✅ NSTDA Fabrication and Engineering Service Division (NFED) 📝 ดูรายละเอียดและลงทะเบียนโดยสแกน QR code ในโปสเตอร์ หรือ กด link Open House ✨ ติดต่อสอบถาม : 📧 ikd@nstda.or.th 📲0 2564 7200

FDI 環境セミナーレポート
「Turning Carbon Tax Management into Profit」

เมื่อวันอังคารที่ 5 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท FDI  ผู้นำด้านการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจอย่างครบวงจร ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จัดงานสัมมนา “การบริหารจัดการ ภาษีคาร์บอน ให้เป็นผลกำไร” : Turning Carbon Tax Management into Profit ณ ห้องประชุม Auditorium ชั้น 3 อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย คุณพัชราภรณ์ เวชวิทยาขลัง ประธานกลุ่มบริษัท เอฟ ดี ไอ (FDI)  กล่าวเปิดงานว่า “จากปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) มาตรการที่เกี่ยวกับการรักษาสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเริ่มถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตในหลายๆประเทศ ด้วยเหตุนี้ ทาง กลุ่มบริษัท FDI ในฐานะที่ปรึกษาทางด้านธุรกิจ ผู้มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษานักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติมากว่า 28 ปี จึงได้จัดงานสัมมนาครั้งนี้เพื่อตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความรู้ แนวทาง และข้อคิดเห็นใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ได้ใช้ในการประกอบการตัดสินใจและเตรียมตัวรับมือต่อความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น” ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย และรองผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวเปิดงาน “ทางสวทช. มีสถาบันเทคโนโลยีและสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (TIIS) ที่ทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆของทางภาครัฐ อย่างองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจกเอง เราจึงเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญของการจัดการสิ่งแวดล้อมส่วนนี้เป็นอย่างมาก และ มีการสนับสนุนส่งเสริมงานวิจัยด้าน BCG หรือ Bio-Circular-Economy มาโดยตลอด” ภายในงานมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน อาทิ คุณ ปฐม ชัยพฤกษทล ผู้จัดการอาวุโส สำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ องค์การบริการก๊าซเรือนกระจก (TGO) คุณ พวงพันธ์ ศรีทอง ผู้จัดการ สำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ องค์การบริการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ดร.วันวิศา ฐานังขะโน วิศวกรอาวุโส สถาบันเทคโนโลยี และ สารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (TIIS) ดร. ชานนท์ วินิจชีวิต ตัวแทนจาก กลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คุณภัทร ภัทรประสิทธิ นักวิชาการภาษีชำนาญการพิเศษ กรมสรรพสามิต คุณ ปฤณวัชร ปานสิงห์ ผู้จัดการอาวุธโสฝ่ายการตลอด […]

FDIセミナー案内 「Turning Carbon Tax Management into Profit」

📣 เชิญร่วมงานสัมมนา “การบริหารจัดการ ภาษีคาร์บอน ให้เป็นผลกำไร“ : Turning Carbon Tax Management into Profit FDI Group ร่วมกับ สวทช. เพื่อให้ผู้ประกอบการ ได้เห็นความสำคัญของการเตรียมพร้อมและรับมือในการวางแผน ” ภาษีคาร์บอน “ วันอังคารที่ 5 มีนาคม 2567 08.30 – 17.00 น. ห้องประชุม Auditorium ชั้น 3 อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สวทช. Ticket Price : 1,800 บาท (ราคานี้รวมอาหารและเครื่องดื่มภายในงาน) พิเศษ! ซื้อ 1 แถม 1 **สำหรับสมาชิกของ NSTDA, TSP , FTI , FDI และเครือข่าย** 🔔 ร่วมฟังบรรยายพิเศษกับผู้เชี่ยวชาญ 🔔 อุปสรรคการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และความท้าทายของผู้ประกอบการ Green Technology and Trend สิทธิประโยชน์ในการจัดการก๊าซเรือนกระจกและแนวทางการวางแผนภาษีที่เกี่ยวข้องกับก๊าซเรือนกระจก การวางแผน ภาษีคาร์บอน ให้เหมาะสมกับธุรกิจอุตสาหกรรมนำเข้าและส่งออก ข้อกำหนด CBAM และข้อกำหนดอื่นๆในระแวกเพื่อนบ้าน เสวนา 1 Case Study : Success story จากการปรับปรุงการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในไทย เสวนา 2 Case Study : Technology Success คาร์บอนฟุตพริ้นท์ในไทย กิจกรรม Special Consulting ( ฟรี สำหรับผู้ลงทะเบียนล่วงหน้า 10 ท่านแรก ! )ร่วมยกระดับและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดการคาร์บอนให้เกิดผลกำไรที่ยั่งยืน พร้อมโอกาสในการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ฟรี! ภายในงาน “การบริหารจัดการ ภาษีคาร์บอน ให้เป็นผลกำไร“ : Turning Carbon Tax Management into Profit!.จำนวนที่นั่งจำกัด! สำรองที่นั่งได้ที่ https://forms.gle/K8oDGJYjUgzDBAc79 สามารถดูรายละเอียดของงานเพิ่มเติมได้ที่ […]

2024年 外国人に人気な就労ビザ8選 Part1

ในยุคปัจจุบันที่การติดต่อสื่อสารทำได้ง่ายมากขึ้น การย้ายถิ่นฐานเพื่อทำงานต่างประเทศจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลาย ๆ คน และในแต่ละประเทศก็มีวีซ่าทำงานที่แตกต่างกันออกไป โดยแต่ละวีซ่าก็มีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปเช่นกัน ทาง FDI A&A จึงได้รวบรวมข้อมูล เขียนบทความนำเสนอ 8 วีซ่าทำงานต่างประเทศ ที่น่าสนใจในปี 2024 หากพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยค่ะ ! 1. Express Entry Program – แคนาดา เป็นระบบการขอวีซ่าเพื่ออาศัยถาวรในแคนาดาสำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติทางเศรษฐกิจ หรือผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานในสายงานที่ได้รับความต้องการจากตลาดแรงงานของแคนาดา หนี่งในสิทธิประโยชน์ของการสมัครผ่าน Express Entry Program คือ คุณสามารถนำคู่ครองและบุตรมาได้  คุณสมบัติของผู้สมัครเบื้องต้น อายุระหว่าง 18-35 ปี (ผู้ที่มีอายุเกิน 35 ปี ยังสามารถสมัครได้ แต่จะได้รับคะแนน CRS น้อยกว่า) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า (ผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าจะได้รับคะแนน CRS มากกว่าผู้ที่จบการศึกษาระดับต่ำกว่า) มีทักษะภาษาอังกฤษหรือภาษาฝรั่งเศสระดับปานกลาง มีคะแนน IELTS อย่างน้อย 6.0 (ผู้ที่สอบ IELTS ได้คะแนนอย่างน้อย 6.0 จะได้รับคะแนน CRS มากกว่าผู้ที่สอบได้คะแนนต่ำกว่า) มีคะแนน CRS อย่างน้อย 67 อาชีพที่ต้องการ อาชีพที่มีความต้องการสูงในแคนาดา ได้แก่ อาชีพด้านการดูแลสุขภาพ อาชีพด้านเทคโนโลยี อาชีพด้านการก่อสร้าง อาชีพด้านการผลิต เป็นต้น อาชีพที่มีทักษะสูง ได้แก่ อาชีพด้านวิศวกรรม อาชีพด้านวิทยาศาสตร์ อาชีพด้านการแพทย์ เป็นต้น อาชีพที่มีความต้องการเฉพาะด้าน ได้แก่ อาชีพด้านเกษตรกรรม อาชีพด้านการท่องเที่ยว เป็นต้น Federal Skilled Worker Program (FSWP) สำหรับแรงงานมีทักษะที่มีประสบการณ์การทำงานและต้องการเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร ประสบการณ์การทำงานที่มีทักษะอย่างน้อย 1 ปี และต้องอยู่ในกลุ่ม National Occupational Classification (NOC) ความสามารถทางภาษา หนังสือรับรองการศึกษา แสดงหลักฐานทางการเงิน ขั้นต่ำ 13,757 ดอลลาร์ ต่อ 1 ท่าน ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >>  Federal Skilled Worker Program […]

付加価値税証明書と付加価値税とは?

สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย คงจะคุ้นเคยกับคำว่า “ภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)” และ “จดทะเบียนภพ 20” เป็นอย่างดี แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้อย่างชัดเจน บทความนี้จึงจะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างจดทะเบียนภพ 20 กับภาษีมูลค่าเพิ่มให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ จดทะเบียนภพ 20 คืออะไร ? จดทะเบียนภพ 20 หมายถึง การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร ผู้ประกอบการที่ได้รับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จะได้รับใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) เพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าผู้ประกอบการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่ จดทะเบียน ภพ 20 คืออะไร? เรามาหาคำตอบกัน ภาษีมูลค่าเพิ่ม คืออะไร ? ภาษีมูลค่าเพิ่ม หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการที่ขายให้แก่ผู้บริโภค ภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยมีอัตราอยู่ที่ 7% โดยผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีหน้าที่หักภาษีมูลค่าเพิ่มจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการที่ขายให้แก่ผู้บริโภค และนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่กรมสรรพากร ความแตกต่างระหว่างจดทะเบียนภพ 20 กับภาษีมูลค่าเพิ่ม จากความหมายข้างต้น จะเห็นได้ว่าจดทะเบียนภพ 20 เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการที่ได้รับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จึงมีหน้าที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่กรมสรรพากร ด้านความสำคัญของการจดทะเบียนภพ 20 การจดทะเบียนภพ 20 มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากเป็นหลักฐานแสดงว่าผู้ประกอบการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย ซึ่งมีข้อดีหลายประการ เช่น ผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าได้ ผู้ประกอบการสามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่มที่ชำระมาแล้วไปหักเป็นภาษีขายได้ ผู้ประกอบการมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ จากภาครัฐ ด้านความสำคัญของภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีมูลค่าเพิ่มมีความสำคัญต่อภาครัฐ เนื่องจากเป็นรายได้หลักของประเทศ โดยภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บได้จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น จดทะเบียนภพ 20 และภาษีมูลค่าเพิ่ม แม้จะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่มีความหมายและหน้าที่ที่แตกต่างกัน ผู้ประกอบการจึงควรเข้าใจความแตกต่างทั้งสองประการนี้ เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากภาครัฐอย่างเต็มรูปแบบ ผู้ประกอบการควรจดทะเบียนภพ 20 เมื่อใด ผู้ประกอบการที่มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภพ 20 นั้น เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด โดยหลักเกณฑ์ในปัจจุบันมีดังนี้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเป็นปกติธุระ เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ตามกฎหมายกำหนด ภายใน 6 เดือนก่อนวันเริ่มประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ หากคาดว่ารายรับจะเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี หากมีสัญญาหรือหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า จะดำเนินการก่อสร้างโรงงานหรืออาคารสำนักงานหรือติดตั้งเครื่องจักร หรือมีการกระทำในลักษณะทำนองเดียวกัน ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ภายในเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นต่อการก่อสร้างโรงงานหรืออาคารสำนักงานหรือติดตั้งเครื่องจักร การยกเลิกการจดทะเบียนภพ 20 ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถขอยกเลิกการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ โดยยื่นแบบ ภ.พ.04 พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง […]

ビジネスコンサルタントに必要な10要素

ที่ปรึกษาธุรกิจ คือ บุคคลที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่องค์กรหรือธุรกิจต่างๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยที่ปรึกษาธุรกิจที่ดีนั้นต้องมีทั้งความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ซึ่งในบทความนี้ FDI A&A จะพูดถึงคุณสมบัติ 10 ข้อที่ที่ปรึกษาทางธุรกิจต้องมี ! 1. ความรู้และทักษะด้านธุรกิจ ที่ปรึกษาธุรกิจต้องมีความรู้และทักษะด้านธุรกิจอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การเงิน ทรัพยากรบุคคล การผลิต หรือการวางแผนเชิงกลยุทธ์ เพื่อให้สามารถเข้าใจปัญหาและนำเสนอแนวทางแก้ไขได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของธุรกิจ 2. ความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ปัญหา ที่ปรึกษาทางธุรกิจต้องมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น พร้อมระบุสาเหตุ และพัฒนาวิธีแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธภาพ มีความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณช่วยให้เข้าใจปัญหาของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และให้คำแนะนำที่ถูกต้อง 3. ทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า ที่ปรึกษาจะต้องมีทักษะการสื่อสารด้วยวาจาและลายลักษณ์อักษรที่ดีเพื่อเสนอแนวคิด อธิบายแนวคิด และนำเสนอข้อมูลด้วยความชัดเจนและความมั่นใจ 4. ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ที่ปรึกษาทางธุรกิจมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ที่ปรึกษาด้านบัญชี ที่ปรึกษาด้านด้านการตลาด ล้วนมีความเชี่ยวชาญ มีความรู้และประสบการณ์เชิงลึกในอุตสาหกรรมนั้นๆ และความเข้าใจเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมจึงถือเป็นแต้มต่อในการก้าวไปสู่การเติบโต 5. ความสามารถในการปรับตัว ทุกธุรกิจเผชิญกับความท้าทายที่ต่างกัน ที่ปรึกษาจึงต้องมีทักษะการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อสามารถปรับกลยุทธ์ แนวทาง และให้คำแนะนำได้อย่างรวดเร็วตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า 6. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ที่ปรึกษาธุรกิจต้องมีทักษะการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ดี เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับผู้บริหารและพนักงานขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการส่งเสริมความไว้วางใจและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว 7. ความสามารถในการเป็นผู้นำ ที่ปรึกษามักมีบทบาทเป็นผู้นำในการชี้นำองค์กรผ่านการเปลี่ยนแปลง จึงควรสร้างความมั่นใจ จูงใจทีม และมีความสามารถในการโน้มน้าวผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกระดับ เพื่อให้มั่นใจว่าการนำคำแนะนำไปปฏิบัติได้อย่างราบรื่น 8. จริยธรรม ความซื่อสัตย์และจริยธรรมเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับที่ปรึกษา โดยจะต้องให้ความสำคัญกับผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้า รักษาความลับ และปฏิบัติตามมาตรฐานทางวิชาชีพและจรรยาบรรณ เพื่อให้สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างมีคุณภาพและเป็นที่เชื่อถือ 9. การบริหารเวลา การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิผลถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับที่ปรึกษา โดยต้องจัดลำดับความสำคัญของงาน จัดการหลายโครงการพร้อมกัน และตรงตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอ ทักษะการบริหารเวลาที่ยอดเยี่ยมจะช่วยให้ส่งมอบงานคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 10. การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ที่ปรึกษาที่ดีไม่ควรหยุดเรียนรู้ โดยต้องอัพเดทอยู่เสมอเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรม เทคโนโลยี และวิธีการล่าสุด การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องช่วยให้สามารถนำเสนอโซลูชันที่ล้ำหน้าและมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า นอกจากคุณสมบัติข้างต้นแล้ว ที่ปรึกษาธุรกิจ ควรมีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานและมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันองค์กร ให้สามารถบรรลุเป้าหมายและช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ที่ปรึกษาทางธุรกิจ ที่มีทักษะมีคุณสมบัติที่ผสมผสานกันอย่างเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างผลลัพธ์และเติบโตที่ดีต่อองค์กร กำลังมองหาที่ปรึกษาทางธุรกิจที่เชี่ยวชาญ? FDI Accounting & Advisory เป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ หรือ business consultant ที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และความรู้ ความสามารถมากกว่า 25 ปี ที่ซึ่งจะช่วยปลดล็อกศักยภาพสูงสุดและก้าวนำหน้าในตลาดที่มีการแข่งขันสูง สามารถติดต่อเพื่อขอรับบริการได้ ที่นี่ พร้อมให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร ซึ่ง บริการของเรา ครอบคลุมตั้งแต่การจดทะเบียนบริษัท การขอใบอนญาตดำเนินธุรกิจต่างๆ […]

イベント案内「サイバーセキュリティ(important basis for Industry 4.0)」

เรียนเชิญร่วมงาน “โรงงานกับการเตรียมพร้อมความมั่นคงปลอดภัย สู่การรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์” 🤖 จาก SMC เนคเทค สวทช. ในงาน “ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พื้นฐานสำคัญสู่ อุตสาหกรรม 4.0” 📌รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA และกฎหมายไซเบอร์ที่เกี่ยวข้อง 📌รู้จัก Low-cost Security Operation Center: SOC สำหรับ อุตสาหกรรม 4.0 📌เรียนรู้จากประสบการณ์จริงของโรงงานและผู้ให้บริการ SOC **พิเศษ ! ภายในงาน** เยี่ยมชม ศูนย์บริการความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (SOC) ทรู ดิจิทัล ไซเบอร์ ซิเคียวริตี้ 📆 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 08:30-15.40 น. 🏛 ณ ห้อง Auditorium ชั้น 6 True Digital Park กรุงเทพฯ ✨ลงทะเบียนได้แล้ววันนี้! >> https://shorturl.asia/UTDBS ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณจิรัฐติกาล ทรัพย์สมบูรณ์ โทร.08 6773 5723 #SMC ตอบโจทย์การผลิตยุคใหม่ พัฒนาไทยสู่ Industry 4.0 #EECI #NECTEC #NSTDA ข่าวสารอื่นๆ FDI Group – Zeroboard ร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อให้บริการธุรกิจสีเขียวอย่างครบวงจร! FDI05/01/2024 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม… Read More FDI Group มอบกระเช้าปีใหม่ให้แก่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI) FDI04/01/2024 FDI Group มอบกระเช้าปีใหม่ให้แก่… Read More ข่าวดีสำหรับคนไทยและชาวจีน! ไทย-จีน ยกเว้นวีซ่าถาวร เริ่ม 1 มีนาคม 2567 FDI03/01/2024 เมื่อวันที่ 2 มกราคม… Read More Load More

炭素クレジット(Carbon Credit)とは?

คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บไว้ ไม่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมจากการดำเนินโครงการและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่ให้การรับรอง มีหน่วยเป็น “ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq)” สำหรับในประเทศไทย คาร์บอนเครดิตจะได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โครงการเกี่ยวกับการทำคาร์บอนเครดิต จึงเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการลดหรือกักเก็บปริมาณก๊าซเรือนกระจก โดยโครงการเหล่านี้สามารถดำเนินการได้หลากหลายรูปแบบ เช่น โครงการปลูกต้นไม้ โครงการพลังงานหมุนเวียน โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เป็นต้น ประเภทของโครงการเกี่ยวกับการทำคาร์บอนเครดิต โครงการลดก๊าซเรือนกระจก (GHG Reduction Project) เป็นโครงการที่ดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงจากระดับเดิม เช่น โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด โครงการลดการใช้สารเคมี โครงการจัดการขยะมูลฝอย โครงการการจัดการน้ำเสียชุมชน โครงการใช้วัสดุรีไซเคิล การนำก๊าซมีเทนกลับมาใช้ประโยชน์ การจัดการน้ำเสียอุตสาหกรรม การลด ดูดซับ และการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกจากภาคป่าไม้และการเกษตร โครงการดูดซับก๊าซเรือนกระจก (Carbon Sequestration Project) เป็นโครงการที่ดำเนินการเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากชั้นบรรยากาศ เช่น โครงการปลูกป่า โครงการฟื้นฟูป่า โครงการปรับปรุงดิน โครงการปลูกพืชคลุมดิน ประโยชน์ของการทำคาร์บอนเครดิต การจัดทำคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย จะต้องดำเนินการผ่านโครงการ Thailand Voluntary Emissions Reduction (T-VER) ซึ่งผู้ที่ต้องการจัดทำคาร์บอนเครดิตจะต้องดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้ ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนโครงการต่อ อบก. โดยระบุรายละเอียดของโครงการ เช่น ประเภทของโครงการ วัตถุประสงค์ของโครงการ พื้นที่ดำเนินการ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดหรือกักเก็บได้ เป็นต้น ดำเนินการตามแผนงานของโครงการและจัดทำรายงานผลการดำเนินงาน ยื่นคำขอรับรองคาร์บอนเครดิตต่อ อบก. โดยแนบรายงานผลการดำเนินงานและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อบก. พิจารณารับรองคาร์บอนเครดิตและออกใบรับรองคาร์บอนเครดิต ประโยชน์ของการทำคาร์บอนเครดิต การทำคาร์บอนเครดิตมีประโยชน์ทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและต่อเศรษฐกิจ โดยประโยชน์ของการทำคาร์บอนเครดิต ดังนี้ ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม การทำคาร์บอนเครดิตช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ การทำคาร์บอนเครดิตสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการและชุมชน จากการจำหน่ายคาร์บอนเครดิตให้กับองค์กรหรือบุคคลที่ต้องการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตัวอย่างโครงการเกี่ยวกับการทำคาร์บอนเครดิต โครงการ BAAC Carbon Credit โครงการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายใต้แนวคิด “สร้างรายได้ให้ชุมชน คืนสู่ธรรมชาติ” โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมให้ชุมชนธนาคารต้นไม้สามารถขายคาร์บอนเครดิตเพื่อนำรายได้มาพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปลูกต้นไม้ต่อไป โครงการปลูกป่าล้านไร่ โครงการของภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้แนวคิด “ปลูกป่า ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม” โดยมุ่งเน้นการปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำ โครงการของภาครัฐและเอกชน ภายใต้แนวคิด “พลังงานสะอาด ทางเลือกใหม่” โดยมุ่งเน้นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนผิวน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้า แนวโน้มของโครงการเกี่ยวกับการทำคาร์บอนเครดิต โครงการเกี่ยวกับการทำคาร์บอนเครดิตมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในอนาคต […]

1 11 12 13 14 15 23