จดทะเบียนภพ 20 กับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่างกันอย่างไร ?

จดทะเบียนภพ 20 VS ภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่างกันอย่างไร

จดทะเบียนภพ 20 กับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่างกันอย่างไร ?

สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย คงจะคุ้นเคยกับคำว่า “ภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)” และ “จดทะเบียนภพ 20” เป็นอย่างดี แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้อย่างชัดเจน บทความนี้จึงจะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างจดทะเบียนภพ 20 กับภาษีมูลค่าเพิ่มให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ

จดทะเบียนภพ 20 คืออะไร ?

จดทะเบียนภพ 20 หมายถึง การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร ผู้ประกอบการที่ได้รับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จะได้รับใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) เพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าผู้ประกอบการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย อ่านเพิ่มเติมได้ที่ จดทะเบียน ภพ 20 คืออะไร? เรามาหาคำตอบกัน

จดทะเบียนภพ 20

ภาษีมูลค่าเพิ่ม คืออะไร ?

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการที่ขายให้แก่ผู้บริโภค ภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยมีอัตราอยู่ที่ 7% โดยผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีหน้าที่หักภาษีมูลค่าเพิ่มจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการที่ขายให้แก่ผู้บริโภค และนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่กรมสรรพากร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ความแตกต่างระหว่างจดทะเบียนภพ 20 กับภาษีมูลค่าเพิ่ม

จากความหมายข้างต้น จะเห็นได้ว่าจดทะเบียนภพ 20 เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ประกอบการที่ได้รับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จึงมีหน้าที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่กรมสรรพากร

ด้านความสำคัญของการจดทะเบียนภพ 20

การจดทะเบียนภพ 20 มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากเป็นหลักฐานแสดงว่าผู้ประกอบการเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย ซึ่งมีข้อดีหลายประการ เช่น

  • ผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าได้
  • ผู้ประกอบการสามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่มที่ชำระมาแล้วไปหักเป็นภาษีขายได้
  • ผู้ประกอบการมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ จากภาครัฐ

ด้านความสำคัญของภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีมูลค่าเพิ่มมีความสำคัญต่อภาครัฐ เนื่องจากเป็นรายได้หลักของประเทศ โดยภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บได้จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น

จดทะเบียนภพ 20 และภาษีมูลค่าเพิ่ม แม้จะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่มีความหมายและหน้าที่ที่แตกต่างกัน ผู้ประกอบการจึงควรเข้าใจความแตกต่างทั้งสองประการนี้ เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากภาครัฐอย่างเต็มรูปแบบ

ผู้ประกอบการควรจดทะเบียนภพ 20 เมื่อใด

ผู้ประกอบการที่มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภพ 20 นั้น เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด โดยหลักเกณฑ์ในปัจจุบันมีดังนี้

  • ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเป็นปกติธุระ เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ตามกฎหมายกำหนด
  • ภายใน 6 เดือนก่อนวันเริ่มประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ หากคาดว่ารายรับจะเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
  • หากมีสัญญาหรือหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า จะดำเนินการก่อสร้างโรงงานหรืออาคารสำนักงานหรือติดตั้งเครื่องจักร หรือมีการกระทำในลักษณะทำนองเดียวกัน ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ภายในเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นต่อการก่อสร้างโรงงานหรืออาคารสำนักงานหรือติดตั้งเครื่องจักร

การยกเลิกการจดทะเบียนภพ 20

ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถขอยกเลิกการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ โดยยื่นแบบ ภ.พ.04 พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ณ สถานประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ประโยชน์ของการจดทะเบียนภพ 20

  • ผู้ประกอบการสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้
  • ผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีและใบรับเงินให้แก่ลูกค้าได้
  • ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลได้

เอกสารที่ต้องเตรียมในการจดทะเบียนภพ 20

  • แบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ.01
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาเอกสารแสดงการจดทะเบียนนิติบุคคล (ถ้ามี)
  • สำเนาเอกสารแสดงการจดทะเบียนพาณิชย์ (ถ้ามี)
  • สำเนาเอกสารแสดงที่อยู่ของสถานประกอบการ

ขั้นตอนในการจดทะเบียนภพ 20

ขั้นตอนการจดทะเบียนภพ 20 มีดังนี้

  1. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
  2. ยื่นแบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ.01 ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา
  3. ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามอัตราที่กำหนด
  4. รับใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20)

การจดทะเบียนภพ 20 และภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรทราบ เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายและได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากภาครัฐอย่างเต็มรูปแบบ

ที่ปรึกษาภาษี บริการด้านภาษี

FDI Accounting & Advisory เป็นบริษัทที่ให้บริการจดทะเบียนบริษัท และขอใบอนุญาตดำเนินธุรกิจต่างๆ ครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 28 ปี ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณในทุกขั้นตอน

บริการของเรา

  • จดทะเบียนบริษัททุกรูปแบบ
  • ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
  • บริการทำบัญชีและภาษี
  • บริการงานทะเบียนการค้า
  • บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ

ทำไมต้องเลือก FDI Accounting & Advisory

  • ทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์
  • บริการครบวงจร จบในที่เดียว
  • สะดวกรวดเร็ว ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน
  • ราคาที่ย่อมเยา คุ้มค่า
  • ให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

พิเศษ! แอดไลน์ Official : @fdigroup กดรับส่วนลดสูงสุดถึง 20% ทุกบริการ วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2567 เท่านั้น !

 

FDI Accounting & Advisory ที่ปรึกษาทางธุรกิจอย่างครบวงวจร ง่าย ครบ จบ ในที่เดียว!

🩵 Facebook : FDI Group – Business Consulting

💚 Line : @fdigroup

📞 Phone : 02 626 5999

📧 E-mail : infojob@fdi.co.th

🌐Website : www.fdi.co.th

บทความที่เกี่ยวข้อง