5 เทรนด์ HRD ที่ต้องจับตามองในปี 2567 !

5 เทรนด์ HRD ที่ต้องจับตามองในปี 2567

5 เทรนด์ HRD ที่ต้องจับตามองในปี 2567 !

โลกธุรกิจในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ รูปแบบการทำงานก็เปลี่ยนไปจากเดิมมาก องค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อที่จะอยู่รอดและเติบโตได้

ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HRD) มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้องค์กรปรับตัวให้เข้ากับโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป HRD คือ หนึ่งในผู้ที่จำเป็นต้องติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ และหาวิธีนำเทรนด์เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับองค์กร หากท่านใดที่ยังไม่รู้ว่า HRD คือ อะไร สามารถอ่านได้ที่บทความ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRD) – FDI

1. การจ้างงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Work)

การจ้างงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Work)

การจ้างงานแบบยืดหยุ่น หมายถึง แนวทางการทำงานที่ไม่มีข้อกำหนดตายตัวในเรื่อง เวลา รูปแบบ สถานที่ หรือ การแต่งตัว เป็นต้น พนักงานสามารถเลือกเวลา รูปแบบ และสถานที่ทำงานที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน หรือทำงานตามเวลาที่กำหนดตายตัว

ตัวอย่างรูปแบบการจ้างงานแบบยืดหยุ่น

  • Flextime: พนักงานสามารถเลือกเวลาเข้างานและเลิกงานได้เอง โดยต้องทำงานให้ครบตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนด
  • Work from home (WFH): พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ทั้งหมด
  • Hybrid work: พนักงานสามารถทำงานผสมผสานระหว่างการเข้าออฟฟิศและทำงานจากที่บ้าน
  • Compressed workweek: พนักงานทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ แต่ละวันทำงาน 10 ชั่วโมง
  • Part-time: พนักงานทำงานจำนวนชั่วโมงน้อยกว่าพนักงานประจำ
  • Freelance: พนักงานทำงานเป็นอิสระ ไม่ได้เป็นพนักงานประจำของบริษัท

HRD จำเป็นต้องหาวิธี

  • ออกแบบนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นที่เหมาะสมกับองค์กร
  • จัดเตรียมเทคโนโลยีที่ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานจากระยะไกลได้
  • พัฒนาทักษะของพนักงานให้สามารถทำงานแบบยืดหยุ่นได้

2. การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของพนักงาน (Employee Experience)

การให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของ พนักงาน (Employee Experience)

Employee Experience หรือ EX หมายถึง ประสบการณ์โดยรวมที่พนักงานได้รับ ตลอดระยะเวลาการทำงานในองค์กร เปรียบเสมือนการเดินทางของพนักงาน เริ่มตั้งแต่การสมัครงาน การเข้าทำงาน การทำงาน การพัฒนาตนเอง ไปจนถึงการลาออก องค์กรที่ให้ความสำคัญกับ EX จะมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานในทุกๆ ด้าน ส่งผลดีต่อทั้งพนักงานและองค์กร ดังนี้

ผลดีต่อพนักงาน

  • ความสุขในการทำงาน: พนักงานรู้สึกดี มีความสุขกับงาน รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
  • ความผูกพันกับองค์กร: พนักงานอยากทำงานกับองค์กรระยะยาว
  • การมีส่วนร่วม: พนักงานทุ่มเท มุ่งมั่น ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • การพัฒนาตนเอง: พนักงานได้รับโอกาสในการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพ

ผลดีต่อองค์กร

  • การดึงดูดและรักษาพนักงาน: องค์กรสามารถดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถ และรักษาพนักงานเก่งไว้ได้
  • ประสิทธิภาพการทำงาน: พนักงานมีประสิทธิภาพ ทำงานได้ดี มีผลงาน
  • ความคิดสร้างสรรค์: พนักงานกล้าคิด กล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์
  • ชื่อเสียงขององค์กร: องค์กรมีภาพลักษณ์ที่ดี ดึงดูดผู้สมัครงาน

3. การใช้ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics)

การใช้ข้อมูลเชิงลึก (Data Analytics)

การใช้ Data Analytics กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับ HRD ในยุคปัจจุบัน ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด มีประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น

ตัวอย่างการใช้ Data Analytics ในงาน HR

  • การสรรหา : วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุผู้สมัครที่มีแนวโน้มประสบความสำเร็จสูง
  • การฝึกอบรม : ระบุทักษะที่พนักงานจำเป็นต้องพัฒนา
  • การจ่ายค่าตอบแทน : วิเคราะห์ข้อมูลค่าจ้างเพื่อสร้างโครงสร้างเงินเดือนที่ยุติธรรม
  • การรักษาพนักงาน : วิเคราะห์สาเหตุของการลาออก และหาวิธีป้องกัน
  • การวางแผนกำลังคน : คาดการณ์ความต้องการพนักงานในอนาคต

4. องค์กรแบบไร้พีระมิด (Flat Organization)

องค์กรแบบไร้พีระมิด (Flat Organization)

เป็นรูปแบบโครงสร้างองค์กรที่ต่างจากแบบดั้งเดิม ตรงที่ไม่มีลำดับชั้นการบังคับบัญชาที่ชัดเจน พนักงานทุกคนมีบทบาทและความรับผิดชอบที่เท่าเทียมกัน

ลักษณะ

  • เน้นการสื่อสารที่เปิดกว้าง โปร่งใส และรวดเร็ว พนักงานทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านหัวหน้า
  • อำนาจในการตัดสินใจกระจายไปยังพนักงานทุกคน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหัวหน้าเพียงคนเดียว
  • พนักงานทุกคนมีความรับผิดชอบต่อผลงานของทีม
  • เน้นการทำงานเป็นทีม พนักงานต่างช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน

ข้อดี

  • การตัดสินใจและดำเนินการรวดเร็ว เพราะไม่ต้องผ่านขั้นตอน bureaucratic
  • องค์กรสามารถปรับตัวได้รวดเร็วตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
  • พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงาน เพราะรู้สึกเป็นเจ้าของผลงาน
  • พนักงานมีความพึงพอใจในการทำงานมากขึ้น เพราะรู้สึกมีอิสระและได้รับการเคารพ

5. อนาคตของงาน (Future of Work)

อนาคตของงาน (Future of Work)

เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI)  robotics และ automation ส่งผลต่ออนาคตของงาน เทรนด์นี้จะส่งผลต่อ HRD ดังนี้

  • การพัฒนาทักษะ HRD จำเป็นต้องช่วยให้พนักงานพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นสำหรับงานในอนาคต
  • การปรับโครงสร้างองค์กร HRD จำเป็นต้องปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมกับโลกของการทำงานที่เปลี่ยนแปลง
  • การเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง HRD จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

ซึ่งทาง FDI Accounting & Advisory ให้บริการ HR Consult ที่จะช่วยให้คำปรึกษาในด้านระบบทรัพยากรบุคคล พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร ซึ่ง บริการของเรา ให้บริการ HR Consult ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษากฏระเบียบบริษัท และข้อตกลงในการจ้างงาน ขึ้นทะเบียนประกันสังคมและสวัสดิการอื่นๆ ปัญหาแรงงานสัมพันธ์ การจัดเตรียมโปรแกรมการฝึกอบรมภายใน สามารถติดต่อเพื่อขอรับบริการได้ ที่นี่  หากยังมีข้อสงสัยว่า hrd คือ อะไรสามารถติดต่อเข้ามาก่อนได้เลย

FDI Accounting & Advisory ที่ปรึกษาทางธุรกิจอย่างครบวงวจร • ง่าย • ครบ • จบ • ในที่เดียว!

🩵 Facebook : FDI Group – Business Consulting

💚 Line : @fdigroup

📞 Phone : 02 626 5999

📧 E-mail : infojob@fdi.co.th

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทักษะ การบริหารคน ด้วยพลังของ Soft Skill !

ทักษะ การบริหารคน ด้วยพลังของ Soft Skill !

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ เทรนด์การทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทักษะที่จำเป็นสำหรับพนักงานจึงไม่ใช่แค่ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเพียงอย่างเดียว...

Read More