เมื่อดำเนินธุรกิจมาถึงจุดหนึ่ง ผู้ประกอบการบางรายอาจตัดสินใจยุติกิจการด้วยเหตุผลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ เป้าหมายทางธุรกิจ หรือการเปลี่ยนแปลงของหุ้นส่วน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การยุบเลิกบริษัทจำกัด จำเป็นต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดภาระภาษีค้างชำระหรือความเสี่ยงทางกฎหมายในอนาคต ซึ่งในบทความนี้ จะอธิบายขั้นตอนและข้อควรรู้ที่เจ้าของบริษัทควรรู้ในการปิดบริษัทให้ถูกต้องตามกฏหมาย
กิจการไปต่อไม่ไหว บริษัทจำกัด คือเลิกทำอย่างไร ให้ถูกต้องตามกฏหมาย
การเลิกบริษัทจำกัด หมายถึง การยุติสถานภาพนิติบุคคลของบริษัทตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งอาจเกิดจากความสมัครใจของผู้ถือหุ้น หรือเป็นไปตามคำสั่งศาลหรือข้อกฎหมาย โดยการเลิกบริษัทต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการพาณิชย์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านภาษี การเงิน หรือความรับผิดทางกฎหมายในอนาคต โดยการยุบเลิกบริษัทจำกัดอาจเกิดจากหลากหลายสาเหตุ เช่น
- บริษัทขาดทุนสะสม ขาดสคล่องทางการเงินอย่างหนัก และไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้แล้ว
- หุ้นส่วนไม่สามารถตกลงกันในแนวทางดำเนินธุรกิจ หรือปัญหาอื่น ๆ จากความสัมพันธฺ์ส่วนตัวที่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
- ต้องการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ หรือเปลี่ยนโครงสร้างเป็นห้างหุ้นส่วน ฯ
- สิ้นสุดวัตถุประสงค์ หรือเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ
ข้อดี – ข้อเสีย ของการจดจัดตั้งบริษัทจำกัด อ่านต่อ !
ประเภทของการยุบเลิก บริษัทจำกัด สามารถทำได้กี่ประเภท ?
การยุบเลิกบริษัทจำกัดสามารถทำได้ 2 ประเภทหลัก ได้แก่
การเลิกโดยสมัครใจ (Voluntary Dissolution)
เป็นกรณีที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติให้เลิกกิจการ โดยไม่มีข้อพิพาทหรือข้อบังคับจากภายนอก เป็นความสมัครใจที่มักเป็นการยุบเลิกในกรณีบริษัทไม่ต้องการดำเนินงานต่อไปเช่น บริษัทไม่มีรายได้ ขาดทุนสะสม หรือ หุ้นส่วนตกลงกันว่าจะยุติกิจการ โดยมีขั้นตอนสำคัญ คือ
- ต้องมี มติพิเศษ จากที่ประชุมผู้ถือหุ้น (เสียงไม่ต่ำกว่า ¾ ของผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุม)
- แจ้งต่อนายทะเบียน และแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีเพื่อดำเนินการปิดบัญชีตามกฎหมาย
การเลิกโดยคำสั่งศาลหรือโดยกฎหมายบังคับ (Compulsory Dissolution)
เป็นกรณีที่บริษัทต้องเลิกกิจการ โดยไม่ได้สมัครใจ แต่เกิดจากเหตุที่กฎหมายหรือศาลกำหนด เช่น บริษัทไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด มีการฝ่าฝืนกฎหมายร้ายแรง หรือผู้ถือหุ้นไม่สามารถตกลงกันได้ จนศาลมีคำสั่งให้ยุบกิจการ ฯ
ขั้นตอนการยุบเลิกบริษัทจำกัดให้ถูกต้องตามกฎหมาย
การเลิกบริษัทจำกัดต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน มีรายละเอียดดังนี้:
1. จัดประชุมผู้ถือหุ้นและออกมติพิเศษ
- บริษัทต้องจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น และมีมติพิเศษ (คะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า ¾ ของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง) เพื่อยืนยันการยุบเลิกกิจการ
- มติดังกล่าวต้องบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และนำไปใช้ประกอบการแจ้งการเลิกกิจการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2. แจ้งการเลิกบริษัทต่อนายทะเบียน
- ต้องมีการแจ้งภายใน 14 วันหลังจากได้มติยุบเลิก ต้องนำส่งหนังสือแจ้งการเลิกบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
- เอกสารที่ใช้ เช่น แบบ บอจ. 6, มติที่ประชุม, สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น, บัญชีงบดุลล่าสุด
- ต้องลงโฆษณาการเลิกกิจการในหนังสือพิมพ์ และแจ้งเจ้าหนี้ให้ทราบ เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้มายื่นเรียกร้องหนี้สินที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินกิจการ
3. แต่งตั้งผู้ชำระบัญชี
- ต้องแต่งตั้ง “ผู้ชำระบัญชี” ซึ่งทำหน้าที่แทนกรรมการบริษัท เพื่อดำเนินการชำระหนี้ เคลียร์ทรัพย์สิน และแจกจ่ายส่วนที่เหลือให้ผู้ถือหุ้น
- ต้องแจ้งแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีต่อนายทะเบียนเช่นเดียวกับการแจ้งยุบบริษัท
4. ผู้ชำระบัญชีดำเนินการชำระบัญชี
- ทำบัญชีสินทรัพย์ หนี้สิน และตรวจสอบความถูกต้อง
- เคลียร์ทรัพย์สิน เช่น ขายทรัพย์สินบริษัทเพื่อนำมาชำระหนี้
- หากมีหนี้สินคงค้างต้องจัดการให้เรียบร้อย
- หากมีทรัพย์สินเหลือจากการชำระหนี้ จะแบ่งคืนให้ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วน
5. ยื่นงบชำระบัญชีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- ผู้ชำระบัญชีต้องจัดทำงบดุลปิดบัญชี และนำส่งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อขอจดทะเบียน “เสร็จการชำระบัญชี”
- กระบวนการจะถือว่าสิ้นสุดเมื่อบริษัทได้รับหนังสือรับรองว่าเสร็จการชำระบัญชีแล้ว
ภาษีและหน้าที่ต่อกรมสรรพากร
แม้จะยุบบริษัทแล้ว แต่ยังมีหน้าที่ทางภาษีที่ต้องปฏิบัติต่อกรมสรรพากร ดังนี้
- ต้องยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล รอบสุดท้าย (ภ.ง.ด.50) ภายใน 150 วันนับแต่วันเลิกบริษัท
- ต้องยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) และแบบแสดงรายการอื่น ๆ ให้ครบถ้วน
- หากบริษัทมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องทำเรื่องขอยกเลิกด้วยเช่นกัน
หากไม่ดำเนินการเหล่านี้ให้ถูกต้อง อาจเสี่ยงโดนค่าปรับ หรือถูกเรียกตรวจย้อนหลังได้
คำแนะนำในข้อควรระวังในการยุบเลิกบริษัท
- หากปล่อยให้บริษัทค้างทะเบียนไว้นานโดยไม่ดำเนินกิจการ เพราะอาจมีภาระภาษีหรือค่าปรับสะสมเกิดขึ้นได้
- หากมีเจ้าหนี้ ต้องแจ้งอย่างเป็นทางการและให้โอกาสเจ้าหนี้ยื่นเรียกร้อง ซึ่งโดยทางกฏหมายไม่ได้ระบุวันชัดเจนในการเรียกร้อง แต่ในทางปฏิบัติ มักให้ ระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน นับจากวันที่มีการโฆษณา เพื่อให้เจ้าหนี้มีโอกาสเตรียมเอกสารและแสดงสิทธิของตน
- ต้องส่งจดหมายแจ้ง เจ้าหนี้ของบริษัททุกคนเป็นรายบุคคล เพื่อให้มาทวงหนี้หรือยื่นคำร้องเรียกร้องหนี้สิน หากละเลยการแจ้ง อาจเกิดข้อพิพาท หรือเจ้าหนี้เรียกร้องต่อผู้ชำระบัญชีได้ภายหลัง
- เอกสารทั้งหมดต้องจัดเก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี ตามกฎหมายบัญชีและภาษี
- การโฆษณาและแจ้งเจ้าหนี้ควรทำ ทันทีหลังได้มติยุบบริษัท และแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี
- การชำระบัญชีต้องโฆษณาการเลิกบริษัท ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอย่างน้อย 1 ครั้ง
จะเริ่มต้นกิจการหรือเลิกกิจการเราพร้อมให้คำแนะนำ
- ที่ปรึกษามืออาชีพด้านการจดจัดตั้งบริษัท ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และการยุบเลิกบริษัทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้คำแนะนำครบวงจร รวดเร็ว ถูกต้อง ทุกขั้นตอน เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นในทุกช่วงเวลา
ช่องทางติดต่อ
- Facebook : FDI Group – Business Consulting
- Line : @fdigroup
- Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
- E-mail : infojob@fdi.co.th
- Website : www.fdi.co.th
見逃せないタイの役立つ情報ที่น่าสนใจ
ต้องรู้! เพิ่มโอกาส สร้างความเข้าใจสู่ความยั่งยืน ด้วยการจัดอบรมพนักงานด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
ในวันที่โลกเผชิญกับภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นทุกปี องค์กรที่ไม่ปรับตัว อาจจะคว้าโอกาสทางการค้าไม่ทัน...
Read Moreหลังจดทะเบียนบริษัทแล้ว เจ้าของธุรกิจจะต้องทำบัญชี – ภาษีอย่างไร ?
ทำไมผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจต้องทำบัญชีบริษัทและยื่นภาษี ไม่ทำได้หรือไม่...
Read Moreชี้พิกัด 10 สินค้า Green Product ในไทยสุดว๊าว ! สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน่าสนใจอย่างไรไปดูกันเลย
ความน่าสนใจของ Green Product...
Read More