ตามกฏหมายระบุไว้ว่า สามารถจดทะเบียนบริษัทได้ด้วยทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 10 บาท โดยคำนวณจากมูลค่าหุ้นขั้นต่ำ 5 บาทต่อ 1 หุ้น และต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คน ตามกฏหมายระบุไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัตินั้นควรพิจารณาตั้งทุนจดทะเบียนให้สูงขึ้นตามรูปแบบธุรกิจและการดำเนินกิจการ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทมากยิ่งขึ้น
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจในเรื่องอะไร ?
- ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ
- การจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทยสำหรับต่างชาติและคนไทย
- คำแนะนำหลังการจดทะเบียนบริษัท การดำเนินการต่อ
- การเปลี่ยนแปลงข้อมูล-เอกสาร กรณีมีการแก้ไข ย้ายที่อยู่
สำหรับบริษัททั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการพิเศษหรือไม่มีหุ้นคนต่างชาติ
ทุนจดทะเบียนสามารถจดทุนที่หลักแสนได้ เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือในเชิงธุรกิจ เช่น เปิดบัญชีบริษัท จัดทำเอกสารขอสินเชื่อ เป็นต้น ขอแนะนำว่าส่วนใหญ่ บริษัทจำกัดโดยส่วนมากมักจะใช้ทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 500,000 – 1,000,000 บาท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดองค์กร ประเภทธุรกิจ รวมถึงควรพิจารณาว่าความต้องการเงินทุนในการดำเนินงานจริง เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง
สำหรับบริษัทที่มีการจ้างต่าวด้าว หรือมีกรรมการบริษัทเป็นต่างชาติ
ทุนจดทะเบียนต้องมีไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาทต่อชาวต่างชาติ 1 คน หากต้องการขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ตามกฏหมายระบุเอาไว้ แต่มีกรณีได้รับสิทธิพิเศษ เช่น ภายใต้ BOI หรือโครงการส่งเสริมอื่น ๆ โดยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของ FDI ในการจดทะเบียนบริษัท การยื่นขอใบอนุญาต FBC FBL การยื่นขอใบอนุญาตทำงานสำหรับชาวต่างชาติ
รวม 10 คำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัท
Question 1: ทุนจดทะเบียนบริษัท คืออะไร ?
Answer : ทุนจดทะเบียน คือ จำนวนเงินทุนที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตกลงร่วมกันว่าจะลงเงินเข้ามาในบริษัท โดยระบุไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิและเอกสารจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
Question 2 : ใช้ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ ต้องมีเท่าไหร่ ?
Answer : ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำสำหรับการจัดตั้งบริษัทจำกัดในประเทศไทยคือ 10 บาท โดยต้องมีหุ้นอย่างน้อย 2 หุ้น หุ้นละ 5 บาท แต่ในทางปฏิบัติ ควรตั้งทุนจดทะเบียนให้สูงกว่าขั้นต่ำนี้ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและรองรับการดำเนินธุรกิจ
Question 3 : ผู้ถือหุ้นต่างชาติจดทะเบียนบริษัทได้หรือไม่ ?
Answer : สามารถทำได้ แต่หากผู้ถือหุ้นต่างชาติเกิน 49% ต้องพิจารณาว่าธุรกิจนั้นอยู่ภายใต้ กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (FBL) หรือการยื่นขอ BOI หรือไม่ ซึ่งต้องขอใบอนุญาตก่อนดำเนินการธุรกิจในไทย แต่หากเป็นกรณีถือหุ้นข้างน้อยกว่าคนไทยในบริษัทนั้น บริษัทที่จดทะเบียนจะมีสิทธิเป็นนิติบุคคลไทยตามปกติ เช่น คนไทยถือหุ้น 51% ต่างชาติถือหุ้น 49% เป็นต้น
Question 4 : ที่อยู่บริษัทต้องเป็นสำนักงานจริงหรือไม่ ?
Answer : ต้องเป็นที่อยู่จริงที่สามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะกรณีขอจด VAT หรือจดทะเบียนภาษี ต้องใช้รูปภาพสถานที่ประกอบกิจการให้ชัดเจน รวมถึงการติดป้ายชื่อบริษัทตามข้อกฏหมายระบุไว้ การใช้ Co-working Space หรือ Virtual Office ต้องระวังข้อจำกัดและการตรวจสอบจากกรมสรรพากร รวมถึงการตรวจสอบจากทางภาครัฐหากมีการทำผิดเงื่อนไข
Question 5 : ใช้เอกสารอะไรบ้างในการจดทะเบียน?
Answer : เอกสารหลัก ได้แก่
- แบบฟอร์มจดทะเบียนบริษัท (บอจ.3, บอจ.5 ฯลฯ)
- Memorandum
- สำเนาบัตรประชาชนผู้ถือหุ้นและกรรมการ
- สัญญาเช่าสถานที่
- แผนที่ตั้งบริษัท
ทั้งนี้รายละเอียดเอกสารขึ้นอยู่กับแต่ละประเภทกิจการที่ดำเนินการด้วยเช่นกัน
Question 6 : ถ้ามีหุ้นส่วนแค่คนเดียว สามารถจดทะเบียนบริษัทได้หรือไม่ ?
Answer : ไม่ได้ สำหรับการจดทะเบียน “บริษัทจำกัด” ในประเทศไทย ต้องมีผู้ร่วมก่อตั้งอย่างน้อย 2 คนขึ้นไปตามกฎหมาย (มาตรา 1096 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์) แต่ถ้าต้องการดำเนินธุรกิจเพียงคนเดียว อาจพิจารณาจดทะเบียนเป็น “เจ้าของคนเดียว” หรือ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด” แทน
Question 7 : บริษัทที่ไม่มีรายได้ แต่มีการจดทะเบียนบริษัทแล้ว ต้องยื่นภาษีหรือไม่?
Answer : ต้องมีการยื่นภาษีเมื่อจดทะเบียนบริษัทแล้ว แม้จะยังไม่มีรายได้ บริษัทก็ยังคงมีหน้าที่ในการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51) และจัดทำบัญชีประจำปี พร้อมรายงานงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากรตามกำหนด
Question 8 : ถ้าย้ายที่อยู่บริษัท ต้องแจ้งที่ไหนบ้าง ?
Answer : ต้องแจ้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (แก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิ) และกรมสรรพากร (แจ้งเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในระบบภาษี) รวมถึงสำนักงานประกันสังคมหากมีพนักงาน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหากมีกรรมการต่างชาติ
Question 9 : การจด VAT จำเป็นตั้งแต่เริ่มหรือไม่ ?
Answer : ยังไม่จำเป็นหากรายได้ไม่ถึง 1.8 ล้านบาท/ปี แต่หากมีลูกค้าต่างชาติหรือคู่ค้ารายใหญ่ มักต้องใช้ใบกำกับภาษี และแนะนำให้จด VAT ไว้ตั้งแต่ต้นเพื่อความน่าเชื่อถือและรับ VAT คืนได้
Question 10 : หลังจดทะเบียนบริษัท ต้องดำเนินการอะไรต่อ ?
Answer : หลังจดทะเบียนแล้วต้อง
- จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี)
- ขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท
- ยื่นแบบ ภพ.20 (ถ้าจด VAT)
- จัดทำบัญชี และยื่นภาษีประจำเดือน-ปี
การจดทะเบียนบริษัทอาจดูเป็นขั้นตอนพื้นฐานสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ แต่ในความจริงแล้วมีรายละเอียดมากมายที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากคุณวางแผนทำธุรกิจให้เป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น การมีผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาด้านกฎหมายและบัญชี จะช่วยวางรากฐานให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคงและถูกต้องตามกฎหมายอย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
Contact Us
- Facebook : FDI Group – Business Consulting
- @fdigroup
- Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
- E-mail : infojob@fdi.co.th
- Website : www.fdi.co.th