SDGs x ESG เชื่อมโยงเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนของโลกและอนาคตของธุรกิจอย่างยั่งยืน

SDGs x ESG เชื่อมโยงเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนของโลกและอนาคตของธุรกิจอย่างยั่งยืน

เมื่อโลกเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อน ดูทีท่าจะแก้ยากมากขึ้น ทั้งความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติที่ลดลง ไปจนถึงโรคระบาดที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและชีวิตของผู้คน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) จึงถูกกำหนดขึ้นมา เพื่อใช้เป็น “เข็มทิศ” นำทางในการลดปัญหาต่าง ๆ  ให้ทุกประเทศร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเป็นระบบและมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทถึงทุกภาคส่วนในการร่วมมือกันเพื่อขจัดปัญหาต่าง ๆ ให้มีทิศทางของทางออกให้ดียิ่งขึ้น 

Sustainability Goals หนึ่งในประเด็นสิ่งแวดล้อมที่เป็นแกนหลักสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 

เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) คืออะไร ? 

SDGs คือ เป้าหมายระดับโลก 17 เป้าหมาย ที่องค์การสหประชาชาติ (UN) กำหนดขึ้นในปี 2015 เพื่อใช้เป็นแนวทางพัฒนาโลกในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ซึ่งได้รับการรับรองจาก 193 ประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งมีกรอบระยะเวลาการดำเนินงานจนถึงปี 2030 โดยเอกสาร โดยเอกสารที่ประเทศสมาชิกทั้งหมดลงนามรับรองเป็นพันธะสัญญานั้นเรียกว่า “Transforming Our World: the 2030 Agenda for Sustainable Development” หรือ “วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030”  

 

หนึ่งในประเด็นที่องค์กรต้องเร่งให้ความสำคัญ “ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม”

ในวันที่โลกเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สูงขึ้น ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกใช้เกินพอดี หรือมลพิษขยะทางทะเลและอากาศ หากพูกดถึงเรื่อง “ความยั่งยืน” จึงไม่ใช่เรื่องขององค์กรด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้นอีกต่อไป แต่กลายเป็นความรับผิดชอบร่วมของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ที่ทุกคนต่างต้องร่วมมือกันพัฒนาโลกอย่างมีทิศทาง โดยเฉพาะในมิติทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นรากฐานของความยั่งยืนในทุกด้าน

 

เป้าหมาย SDGs ด้านสิ่งแวดล้อมที่องค์กรควรรู้

แม้ SDGs ทั้ง 17 ข้อจะเชื่อมโยงกัน แต่ถ้าหากพูดถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ก็มีบางเป้าหมายที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมไว้อย่างชัดเจน เช่น

1. SDG 6 : น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล ส่งเสริมการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยของเสียลงแหล่งน้ำ

2. SDG 7 : พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์ เซลล์ ลม หรือชีวมวล

3. SDG 12 : การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน ผลักดันระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด

4. SDG 13 : การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก วางแผนรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดจากโลกร้อน

5. SDG 14 และ 15 : ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและบนบก ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ฟื้นฟูระบบนิเวศที่เสื่อมโทรม

 

SDGs กับ ESG เป้าหมายสู่ความยั่งยืนที่สามารถพัฒนาร่วมกันได้

องค์กรจำเป็นต้องมี “กรอบแนวคิด” ที่สามารถนำไปสู่การลงมือทำอย่างเป็นระบบ  โดยองค์กรสามารถใช้ SDGs เป็นกรอบใหญ่เพื่อกำหนดทิศทางในการพัฒนา จากนั้นใช้ ESG เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนภายในให้วัดผลได้ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกันมากขึ้น ซึ่งถ้าหากทำร่วมกันแล้ว จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ทั้งระดับจุลภาค  (ธุรกิจ) และมหภาค (โลก) ล้วนแล้วแต่ส่งผลดีทั้งสิ้น

ข้อดีที่ตอบคำถามได้ว่า “ทำไมองค์กรควรใช้ทั้ง SDGs และ ESG ” 

7 เหตุผลเด่นที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน 

1. มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ที่น่าเชื่อถือระดับสากล รวมถึงสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงโลก

องค์กรที่ขับเคลื่อนเป้าหมาย SDGs และมีนโยบาย ESG ที่ชัดเจนจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและคู่ค้าทั่วโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม

2.ส่งเสริมการเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว (Green Finance)

สถาบันการเงินและนักลงทุนทั่วโลกสนับสนุนบริษัทที่มีการจัดการ ESG และมีเป้าหมายสอดคล้องกับ SDGs โดยเฉพาะกลุ่ม Sustainable Fund, ESG Bond และกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม

3.ได้รับคะแนน ESG Rating สูงขึ้นในตลาดทุน

บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินการตามหลัก ESG และสื่อสารเป้าหมาย SDGs ชัดเจน มักได้รับคะแนน ESG ที่ดี ช่วยเสริมความน่าสนใจต่อนักลงทุนและติดอันดับดัชนียั่งยืน (Sustainability Index)

4.ส่งเสริมการรองรับข้อกำหนดกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ

เช่น EU CBAM (ภาษีคาร์บอน), กฎหมายแรงงานสิทธิมนุษยชน, ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อมของผู้ซื้อสินค้าในต่างประเทศ รวมถึงภาษีคาร์บอนในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกที่กำลังร่างกฏหมายก่อนประกาศใช้ในเร็ว ๆ นี้ 

5. สร้างการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาวอย่างยั่งยืนมากขึ้น ในทุกองค์กร 

ESG ช่วยบริหารความเสี่ยง SDGs ช่วยกำหนดทิศทางการพัฒนา องค์กรที่ใช้ร่วมกันจึงมีโครงสร้างที่พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่หวั่นต่อความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต 

6.มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดต้นทุนแฝงให้ลดลง 

ในด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการพลังงาน น้ำ ขยะ และทรัพยากรภายในองค์กรแบบ ESG จะช่วยลดค่าใช้จ่ายอย่างเป็นรูปธรรม และสร้างคุณค่าที่ดีให้องค์กรได้มากยิ่งขึ้น 

7.เป็นการส่งเสริมความสอดคล้องในมิติของห่วงโซ่อุปทานสากล

อย่างที่ทราบกันดีว่าบริษัทผู้ซื้อ (especially B2B) ให้ความสำคัญกับซัพพลายเออร์ที่มีนโยบาย SDGs และ ESG โดมีรายงานที่ชัดเจน โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมส่งออก เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และอาหาร เป็นต้น 

ในฐานะที่ปรึกษาธุรกิจด้านความยั่งยืน FDI Group ขอแนะนำให้องค์กรใช้ SDGs ร่วมกับ ESG เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในระยะยาว SDGs ช่วยกำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับโลก ขณะที่ ESG เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงภายในองค์กร ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล การใช้แนวคิดทั้งสองร่วมกันช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน สร้างความน่าเชื่อถือ เสริมศักยภาพการแข่งขัน และตอบโจทย์ความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในยุคใหม่ เราแนะนำให้องค์กรเริ่มวางกลยุทธ์อย่างเป็นระบบตั้งแต่วันนี้เพื่อโอกาสที่ดีกว่า 

ช่องทางติดต่อ 

  • Facebook : FDI Group – Business Consulting
  • Line : @fdigroup
  • Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
  • E-mail : infojob@fdi.co.th
  • Website : www.fdi.co.th