เพิ่มกำไรอย่างยั่งยืนให้กับโรงงาน Jewelry กับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องมาตรฐาน RJC
ถือเป็นอีกเรื่องที่ไม่ได้ใหม่สำหรับผู้ประกอบการในปี 2025 แต่เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายใหม่ ที่ต้องให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น สำหรับด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ที่เป็นหนึ่งในข้อกำหนดด้านมาตรฐานของ RJC
จากข้อมูลรายงานของ World Jewellery Confederation (CIBJO) ระบุว่า อุตสาหกรรมเครื่องประดับมีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมาก โดยเฉพาะในช่วง ๊Upstream ของซัพพลายเชน รวมถึงขั้นตอนการดำเนินงานส่วนอื่น ๆ ด้วยสาเหตุนี้จึงถือเป็นเรื่องที่ท้าทายในยุคที่โลกตื่นตัวกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ทั้งคู่ค้าในประเทศต่าง ๆ รวมถึงผู้บริโภคยุคใหม่ โดยมีข้อมูลว่ากว่า 72% ของผู้บริโภค โดย Gen Z เชื่อว่าบริษัทควรแสดงความโปร่งใสด้านสิ่งแวดล้อม (Deloitte, 2024) นี่จึงเป็นอีกข้อมูลที่ตอกย้ำว่า คนส่วนใหญ่ล้วนให้ความสำคัญต่อด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อุตสาหกรรมเครื่องประดับ (Jewelry Industry) ก็ถือว่าเป็นอีกอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ถูกจับตามากขึ้น โดยเฉพาะ “โรงงานผู้ผลิต” ซึ่งอยู่ต้นทางของห่วงโซ่อุปทาน ที่กำลังเผชิญกับคำถามสำคัญว่า…จะสามารถเติบโตไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร ? ต้องทำและวางแผนดำเนินการแบบไหนให้มีกำไรอย่างยั่งยืนเกิดขึ้นได้จริง
เปลี่ยนโรงงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องมาตรฐาน RJC
Responsible Jewellery Council (RJC) คือมาตรฐานสากลสำหรับธุรกิจในอุตสาหกรรมเครื่องประดับที่มุ่งเน้นความโปร่งใส จริยธรรม และความยั่งยืน
Responsible Jewellery Council (RJC) คืออะไร ?
โดยมาตรฐาน RJC จะมีข้อกำหนดหลักในด้านต่าง ๆ ดังนี้
- ด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นมาตรฐานในการจัดการของเสีย มลพิษ การใช้พลังงาน และวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
- ด้านสิทธิมนุษยชน แรงงานและการดำเนินงานทางสังคม มุ่งเน้นการคุ้มครองสิทธิแรงงานอย่างถูกกฏหมาย การเคารพสิทธิมนุษยชน การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างเท่าเทียม
- ด้านจริยธรรมทางธุรกิจ ครอบคลุมการดำเนินงานอย่างโปร่งใส ซื่อสัตย์ และเป็นธรรม ตรวจสอบได้ ด้วยการมีมาตรฐานจริยธรรมที่สูง สอดคล้องกับกฏหมายที่เกี่ยวข้อง
- ด้านความรับผิดชอบต่อห่วงโซ่อุปทาน การตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของโลหะและอัญมณี การจัดการระบบที่มีประสิทธิภาพ การติดตาม การประเมินผล และการดำเนินงาน
อุตสาหกรรม Jewelry ไทย กับความจำเป็นที่ต้องทำตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
ในอดียที่ผ่านมาการผลิตเครื่องประดับเป็นธุรกิจความงาม ที่เน้นฝีมือ ความประณีต และคุณค่าในเชิงวัตถุ แต่ในโลกยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในปี 2025 เป็นต้นไป อุตสาหกรรมเครื่องประดับทั่วโลกกำลังเผชิญความคาดหวังว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน ในทิศทางที่ส่งผลดีต่อโลกและสังคม โดยเฉพาะการปรับรูปแบบในเรื่องด้านสิ่งแวดล้อม เพราะการขุดโลหะมีค่า, การขัดเงา, การเคลือบ, การใช้พลังงานและเคมีในโรงงาน ล้วนมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และก่อให้เกิดของเสียอันตราย ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมนี้ถูกจับตามองมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าว
ถ้าต้องการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม เริ่มทำจากจุดไหน ปรับอย่างไรดี ?
ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ขอแนะนำเบื้องต้นสำหรับโรงงาน Jewelry ในการปรับรูปแบบการดำเนินงานให้สอดคล้องตามมาตรฐาน RJC ในด้านสิ่งแวดล้อม ดังนี้
1.กำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การอบรมภายในเพื่อสร้างการรับรู้ของบุคคลากรในการวางแผนการดำเนินงาน มีเป้าหมายร่วมกันในการจัดทำ การวางแผนการเก็บข้อมูลการใช้พลังงาน-วัตถุดิบ อย่างเป็นระบบ มีขั้นตอน รวมถึงวิธีการที่เหมาะสม โปร่งใส ในการเก็บข้อมูลการใช้พลังงาน
2.การประเมิน Carbon Footprint เพื่อดูว่ากระบวนการใดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมาก – น้อย ตามลำดับ
3.ตรวจสอบ – เลือกใช้วัตถุดิบจากแหล่งที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ มีมาตรฐาน ข้อมูลที่ชัดเจน เช่น ทองรีไซเคิล เพชรเลี้ยง
4.วางแผนการลดการใช้สารเคมี เช่น กรดเคลือบ หรือวัสดุที่ปนเปื้อนน้ำเสีย
5.ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว สามารถให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
โดยสรุปแล้ว กลุ่มอุตสาหกรรม Jewelry ไทย “ถือว่าจำเป็น” ที่ต้องปรับเปลี่ยนให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปแสดงต่อคู่ค้าในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมได้ รวมถึงช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะโลกธุรกิจในวันนี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงความคาดหวังของผู้บริโภคและคู่ค้าไม่ใช่แค่คุณภาพสินค้าอีกต่อไป แต่รวมถึง “จริยธรรมในการผลิต” และ “ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อโลกนี้” การใส่ใจในด้านสิ่งแวดล้อมจึงไม่ใช่เพียงเรื่องภาพลักษณ์ แต่คือการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่จะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุน ที่เพิ่มโอกาสให้โรงงาน Jewelry ไทยเติบโตได้
FDI Group ในฐานะที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมสนับสนุนโรงงานไทยทุกแห่งที่ต้องการก้าวสู่มาตรฐานระดับโลก ด้วยแนวทางที่เป็นมาตรฐานสากล สามารถทำได้จริง โดยมุ่งเน้นผลประโยชน์ต่อส่วนรวม สังคม สิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเป็นการปรับกลยุทธ์ ให้มีความเหมาะกับบริบทของอุตสาหกรรมเครื่องประดับไทยในแต่ละแห่งโดยเฉพาะ เราพร้อมให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร เพื่อพาทุกองค์กรก้าวสู่มาตรฐานระดับโลกอย่างมั่นใจ และมีผลกำไรอย่างยั่งยืน
ช่องทางติดต่อ
- Facebook : FDI Group – Business Consulting
- Line : @fdigroup
- Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
- E-mail : infojob@fdi.co.th
- Website : www.fdi.co.th
บทความที่น่าสนใจ
SDGs x ESG เชื่อมโยงเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนของโลกและอนาคตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
เมื่อโลกเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อน ดูทีท่าจะแก้ยากมากขึ้น ทั้งความยากจน...
Read MoreCBAM Certificate คืออะไร ? ปี 69 “CBAM เริ่มภาคบังคับ” เอกสารสำคัญที่ผู้ส่งสินค้าไปยุโรปต้องรู้
จากบทความก่อนที่ FDI พาไปเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับ...
Read MoreCarbon Emission Types คืออะไร พร้อมแนะนำแนวทางเบื้องต้น! สำหรับองค์กรในการเก็บข้อมูลเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก
อย่างที่ทราบกันดีว่า คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon...
Read More