ความน่าสนใจของ Green Product ที่ต้องรู้! สินค้ายุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
สำหรับ Green Product หรือ สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หมายถึง สินค้าที่ถูกออกแบบ ผลิต ใช้งาน และจัดการหลังใช้โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบต่อธรรมชาติ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนต้นน้ำถึงปลายน้ำของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment – LCA) ซึ่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้ น่าสนใจอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะไม่ได้เป็นแค่ทางเลือกทางที่ดูปลอดภัยต่อชีวิตในเรื่องสุขภาพ แต่ยังมีความเกี่ยวข้องกับ แนวโน้มตลาดโลก ความยั่งยืนของธุรกิจในอนาคต และพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาสินค้าที่ปลอดภัยต่อร่างกาย และส่งผลน้อยต่อสิ่งแวดล้อม อีกด้วย
ในงานวิจัยของ Deloitte ปี 2023 พบว่า ผู้บริโภคกว่า 73% ทั่วโลก “ยินดีจ่ายแพงกว่า” ถ้ารู้ว่าสินค้านั้นมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตัวเลขนี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่มองการใช้ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของจุดยืน และสินค้าที่ซื้อต้องสอดคล้องกับค่านิยม
“ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้แค่ซื้อของ แต่ซื้อความหมาย”
กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ไม่ได้แค่ถามว่า “ถูกไหม?” แต่ถามว่า “ดีต่อโลกไหม?” และ “แบรนด์นี้มีจุดยืนเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือเปล่า?” เพิ่มมากขึ้น นอกจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ภาครัฐในหลายประเทศ รวมถึงสหภาพยุโรป กำลังออกกฎระเบียบที่เข้มข้นขึ้นในด้านสิ่งแวดล้อม เช่น CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ที่จะเก็บภาษีคาร์บอนกับสินค้านำเข้า หากไม่มีการวัดและรายงานค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ชัดเจนในแง่มุมนี้ สินค้า Green Product คือ “ทางเลือกที่น่าสนใจ” ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ส่งออกจากประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ที่ต้องปรับตัวคว้าโอกาสในตลาดโลก
ลักษณะของ Green Product ที่ช่วยให้เราสังเกตุได้ง่ายมากขึ้น
- มีการใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนหรือมีการรีไซเคิลได้
เช่น ใช้พลาสติกรีไซเคิล เยื่ออ้อย กระดาษที่ได้จากการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน (FSC) - กระบวนการผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
มีการวางแผนการลดการใช้พลังงาน การลดของเสีย มีการจัดการน้ำเสียและการจัดการก๊าซเรือนกระจกที่มีประสิทธิภาพ - มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและไม่ใช้สารพิษ
เช่น ปราศจากสารตะกั่ว ฟอร์มาลดีไฮด์ หรือ PVC - สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ รีไซเคิล หรือย่อยสลายได้
เช่น บรรจุภัณฑ์ชีวภาพจากพืช แปรงสีฟันย่อยสลายได้ โดยการย่อยสลายนั้นสามารถย่อยสลายได้ 100% ในธรรมชาติ
เปิด 10 สินค้า green product ในไทยสุดว๊าว ! มีอะไรบ้างไปดูกัน
1. Gracz (Biodegradable Tableware)
ผลิตภัณฑ์จากกระดูกอ้อย (bagasse) เช่น จาน ชาม และภาชนะที่ย่อยสลายได้ภายใน 45 วันในดิน ไม่ใช้สารเคมีและปลอดภัยต่ออาหาร เหมาะกับการใช้แทนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
2. Plan Toys – ของเล่นไม้ยางพารา
Plan Toys ผลิตของเล่นจากไม้ยางพาราซึ่งเป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมยาง ใช้กาวปราศจากฟอร์มาลดีไฮด์ พิมพ์ด้วยสีน้ำ และบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล
3. Tlejourn – รองเท้าแฟชั่นจากขยะทะเล
รองเท้าทำจากตาข่ายประมงและขยะพลาสติกที่เก็บจากชายหาดไทย ช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเลและเพิ่มมูลค่าให้วัสดุเหลือใช้
4. QO (Qualy) – ของใช้บ้านจากวัสดุรีไซเคิล
ผลิตภัณฑ์ของใช้ในบ้านดีไซน์เก๋จากวัสดุรีไซเคิล เช่น พลาสติกเหลือใช้ให้กลายเป็นของใช้ได้ทั้งสวยและรักษ์โลก
5. Patom Organic Living – สกินแคร์ออร์แกนิก
สินค้าบำรุงผิวจากวัตถุดิบออร์แกนิกที่สนับสนุนเกษตรกรไทย พร้อมบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
6. Hyperdesign Lab – นาฬิกาเดสก์ท็อปล้ำ ใช้วัสดุจากมูลช้าง
ผลิตนาฬิกาที่ผสมผสานวัสดุ 70% มูลช้าง และ 30% กระดาษมัลเบอร์รี ย่อยสลายได้ สร้างสรรค์และลดขยะจากค่ายช้าง
7. Taktai – เสื้อผ้าใยธรรมชาติจากไผ่
แฟชั่นใช้ใยไผ่ธรรมชาติ การเพาะปลูกอย่างยั่งยืนและย่อยสลายง่าย ช่วยลดการใช้ทรัพยากรและสารเคมีในอุตสาหกรรมแฟชั่น
8. Madmatter Studio – กระเป๋าอัพไซเคิลจากเสื้อผ้าเก่า
นำเศษเสื้อผ้าเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ เป็นกระเป๋า หมวก หรือตัวกระเป๋าแฟชั่น ได้ทั้งความสวยและลดของเสีย
9. Mr. Leaf – แบรนด์กระเป๋าจากใบตองตึง
ใช้ใบตองตึงซึ่งเป็นวัสดุท้องถิ่นของเชียงใหม่ ผลิตเป็นกระเป๋าและตราประทับสวย แสดงวิถีชุมชนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
10. 103 PAPER – แจกันจากกระดาษรีไซเคิล
ผลิตแจกันงานตกแต่งบ้านจากเศษกระดาษสำนักงาน ใช้วิธีการสกัดเป็นรูปทรงสำหรับตกแต่ง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ
3 เหตุผลหลัก ที่ตอบคำถามว่า “ทำไมเราควรอุดหนุนสินค้าไทย SME ที่เป็น Green Product” ?
1.เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
ในตลาดสีเขียวผู้ประกอบการ SME ไทย จำนวนมากกำลังพยายามปรับเปลี่ยนแนวทางการผลิตมาใช้แนวคิด Bio-Circular-Green (BCG Economy) โดยมุ่งเน้น วัตถุดิบธรรมชาติ การออกแบบที่ยั่งยืน และ การลดของเสีย ตัวอย่างเช่น ของเล่นไม้จาก Plan Toys หรือบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้จาก Gracz
เมื่อเราซื้อผลิตภัณฑ์จาก SME ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เท่ากับเรากำลัง สร้างกำลังใจและส่งเสริมตลาดให้กับนวัตกรรมสีเขียว ในระดับท้องถิ่นที่จะพัฒนาสินค้าที่สร้างความยั่งยืนให้กับสังคมไทยได้ในหลากหลายมิติมากยิ่งขึ้น
2.เป็นการช่วยส่งเสริมนวัตกรรมไทยไปสู่ตลาดโลก และเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก
หลายแบรนด์ SME ไทยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเริ่มได้รับการยอมรับในระดับสากล เช่น Qualy, Patom Organic หรือแบรนด์สิ่งทอ Taktai การสนับสนุนจากคนในประเทศจะเป็นการส่งเสริมการสร้าง Soft Power ไทยในรูปแบบใหม่ได้เช่นกัน
3.ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ในระดับครัวเรือน
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำยาทำความสะอาดชีวภาพ แชมพูออร์แกนิก หรือภาชนะย่อยสลายได้ จะช่วยลดปริมาณขยะพิษและไมโครพลาสติก ลดผลกระทบต่อสุขภาพคนในครอบครัว ในฐานะผู้บริโภค เราอาจเป็นพลังเล็ก ๆ แต่หากรวมกันหลายล้านเสียง ก็สามารถเปลี่ยนทิศทางของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยให้ดีขึ้นได้เช่นกัน
จะดีกว่าไหมถ้าเราได้ใช้สินค้าคุณภาพดี และส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนต่อไป
สุดท้ายแล้ว Green Product อาจจะไม่ใช่เพียงสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาในตลาดอย่างเดียว เพื่อตอบสนองต่อเทรนด์การตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว แต่ Green Product คือ ภารกิจร่วมของทุกคนในระบบเศรษฐกิจ หากผู้บริโภคเลือกซื้ออย่างใส่ใจ ผู้ประกอบการผลิตอย่างมีการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และภาครัฐมีการกำหนดนโยบายที่เอื้อต่อความยั่งยืน แนวทางเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ก็จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
เราอาจเริ่มต้นจากเรื่องเล็ก ๆ ง่าย ๆ เช่น การเปลี่ยนจากถุงพลาสติกเป็นถุงผ้า การใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีฟิลได้ หรือการอุดหนุนสินค้าในท้องถิ่นที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพราะทุกการเลือกซื้อของคุณ คือการส่งเสียงที่มีพลัง และทุกเสียงเล็ก ๆ เหล่านั้นจะรวมกันกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เพื่อโลกใบนี้ เพื่อโลก เพื่อเรา
FDI ขอสนับสนุนสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าที่ให้ความสำคัญในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และในอีกหลายหลายมิติที่ดีต่อสังคมโดยภาพรวม เพราะเรื่องปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากไม่เริ่มตอนนี้ ในอนาคตอาจจะเกิดปัญหาที่แก้ยากมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เริ่มปรับวันนี้ เพื่อโลกที่ดีกว่า เพื่อโลกเพื่อเราทุกคน
As an environmental and sustainability consultant, ในฐานะที่ปรึกษาทางด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เราพร้อมให้การสนับสนุนทุกองค์กรธุรกิจที่มีเป้าหมายเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเช่นเดียวกับเรา ในการเป็นที่ปรึกษาการทำธุรกิจ ภายใต้เงื่อนไขที่ขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย ที่ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อให้ตอบโจทย์นโยบายของภาครัฐ รวมถึงเป้าหมายขององค์กร ในการปรับเปลี่ยนระบบการทำธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม สู่ความยั่งยืนโดยแท้จริง
Contact Us
- Facebook : FDI Group – Business Consulting
- @fdigroup
- Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
- E-mail : infojob@fdi.co.th
BlogArticles
ต้องรู้! เพิ่มโอกาส สร้างความเข้าใจสู่ความยั่งยืน ด้วยการจัดอบรมพนักงานด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
ในวันที่โลกเผชิญกับภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นทุกปี องค์กรที่ไม่ปรับตัว อาจจะคว้าโอกาสทางการค้าไม่ทัน...
Read MoreEco-Friendly Products คืออะไร? “สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” แค่ชื่อดูดี หรือเปลี่ยนโลกสร้างความยั่งยืนได้จริง ?
Eco-friendly products คืออะไร...
Read MoreSDGs x ESG เชื่อมโยงเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนของโลกและอนาคตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
เมื่อโลกเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อน ดูทีท่าจะแก้ยากมากขึ้น ทั้งความยากจน...
Read More