เทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตาในปี 2025 พัฒนาธุรกิจให้ทันเทรนด์
นับถอยหลังเพียงอีก 1 เดือน ก็จะก้าวเข้าสู่ปี 2025 แต่ละองค์กรต่างเตรียมความพร้อมพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข่งขันในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และความท้าทายใหม่ๆ ก็เข้ามาทดสอบธุรกิจทุกประเภท ซึ่งหากท่านใดที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนหรือสร้างธุรกิจใหม่อยู่นั้น การทำความเข้าใจเทรนด์ธุรกิจที่น่าสนใจในปี 2025
FDI เชื่อว่าในบทความนี้จะสามารถสร้างไอเดียใหม่ ให้ความเข้าใจในโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้สำหรับนักลงทุนหรือคนที่กำลังอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ได้เป็นอย่างดี
เทรนด์ที่น่าสนใจและลงทุน
-
เทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning
เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน หรือการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น พัฒนาซอฟต์แวร์ AI, บริการที่ปรึกษา AI, และแอปพลิเคชันที่ใช้ AI จะมีโอกาสเติบโตอย่างมาก ยกตัวอย่าง บริษัทโทรศัพท์ค่ายสีเขียวได้พัฒนาธุรกิจ ใช้ AI Voice Bot ในการติดต่อลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เช่น การโทรแจ้งนัดหมาย การโทรติดตามหนี้ การโทรนัดรับสินค้า ซึ่งการนำ AI มาใช้กับธุรกิจ ช่วยลดต้นทุนเวลาและทรัพยากรบุคคลไปได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว
-
เทรนด์ธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในระยะยาว รับผิดชอบต่อสังคม และมีธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ จะได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากขึ้น สำหรับเทรนด์ธุรกิจสีเขียวนี้ FDI ให้ความเห็นว่าเป็นธุรกิจที่น่าจับตามาเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากการพัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์สีเขียวนั้น จะช่วยตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ สร้างความยั่งยืน ลดต้นทุนได้ในระยะยาว อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐอีกด้วย
-
เทรนด์อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT)
IoT หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) หมายถึงเครือข่ายรวมของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อถึงกันและเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับระบบคลาวด์ ตลอดจนระหว่างอุปกรณ์ด้วยกันเอง อุปกรณ์ต่างๆ จะเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ทำให้เกิดข้อมูลจำนวนมหาศาลที่สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ IoT ที่สามารถเป็นไอเดียได้ เช่น เซ็นเซอร์, ระบบควบคุมอัตโนมัติ, และแพลตฟอร์ม IoT เป็นต้น จะเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น ยกตัวอย่างธุรกิจ เช่น ระบบปลูกพืชด้วยน้ำสามารถใช้เซ็นเซอร์ IoT เพื่อจัดการสวน โดยการเปิดปิดระบบน้ำ ไฟ ด้วยเซ็นเซอร์โดยสามารถระบุเวลา หรือปิดอุปกรณ์ที่ไม่ใช้เเล้วได้
-
เทรนด์สุขภาพและ Wellness
ยุคของเทรนด์สุขภาพและการดูแลตัวเอง ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้สูงอายุ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและ Wellness มีแนวโน้มเติบโตสูง เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผงผัก ผงวิตามิน , ฟิตเนสและสปา, และเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพอื่นๆ
-
เทรนด์พลังงานสะอาด
ความตระหนักรู้ และการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเพิ่มขึ้น ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมทำให้พลังงานสะอาดเป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, และยานยนต์ไฟฟ้า จะมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง
-
เทรนด์อีคอมเมิร์ซ
ในปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้นทั้งทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค หรือแม้กระทั่งสินค้าชิ้นใหญ่ๆ เพราะการซื้อที่ง่าย โปรโมชั่นส่วนลดค่าส่งฟรี มีสินค้าให้เลือกมากมาย รวมถึงปัจจัยเชิงบวกอื่นๆ การซื้อขายสินค้าออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงได้ รวมถึงการสร้างตัวตน ความน่าเชื่อถือ จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า หากใครอยากเริ่มเป็นเจ้าของธุรกิจ FDI มีบริการให้คำปรึกษาการจัดตั้งบริษัท การขอใบอนุญาตอื่นๆ
ซึ่งเทรนด์ต่างๆ ที่กล่าวมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทรนด์ที่น่าสนใจในปี 2025 เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายเทรนด์ธุรกิจที่สามารถปรับใช้ในการพัฒนาธุรกิจได้
ความน่าสนใจของเทรนด์ธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม ทางรอดหรือทางเลือกที่ดีกว่า ?
การลงทุนในธุรกิจสีเขียวเป็นการลงทุนที่มีความหมายและส่งผลกระทบเชิงบวกในระยะยาว ไม่เพียงแต่สร้างผลตอบแทนทางการเงิน แต่ยังเป็นการสร้างโลกที่ยั่งยืนให้กับทุกคนบนโลก รวมถึงคนรุ่นถัดไป
การทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อโลกหรือธุรกิจสีเขียว (Green Business) จึงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่อุตสาหกรรมในทั่วโลก ต่างกำลังปรับสู่ New Business Model ไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ที่เกิดเป็นภาพของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ในทุกกระบวนการผลิตและการประกอบธุรกิจ จนเป็นธุรกิจสีเขียว นักวิเคราะห์ทั่วโลกต่างให้ความเห็นว่า ธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน คือธุรกิจแห่งอนาคตที่ทุกธุรกิจควรทำ
โดยคุณอรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อะแด็ปเตอร์ ดิจิตอล กรุ๊ป ได้ให้ข้อมูลไว้อย่างน่าสนใจ ในงาน The Secret Sauce Summit 2024 ที่พูดถึง เรื่องของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร และ Generations ซึ่งหนึ่งในข้อมูลด้านพฤติกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยกล่าวไว้ว่า คือ Gen Millennials (Gen Y): เป็นกลุ่มคนที่ต้องการ “คุณภาพ และ “คุณค่า” สูง เมื่อเที่ยบกับ Generation อื่น Gen Millennials สนใจ Premiumization และคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองซื้อ เพราะฉะนั้นผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงให้ความสำคัญกับสินค้ามีคุณภาพค่อนข้างมาก นอกจากนี้ Gen Millennials ยังชื่นชอบแบรนด์ที่มีแนวคิด หลักปฏิบัติไปในทางเดียวกับค่านิยมของตนเอง โดยอ้างอิงถึงงานวิจัยไว้ว่า Gen Y กว่า 75% บอกว่าให้ความสำคัญกับ Sustainability เป็นปัจจัยในการซื้อสินค้า-บริการมาเป็นอันดับต้นๆ จากข้อมูลวิจัย Gen Millennials มีจำนวนประชากรมาก และมีกำลังซื้อสูง ซึ่งกลุ่มเป้าหมายนี้ ก็น่าสนใจสำหรับธุรกิจต่างๆ การพัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภคจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการทำธุรกิจได้ในระยะยาว
เทรนด์ธุรกิจสีเขียว สิ่งแวดล้อมน่าสนใจอย่างไร?
เทรนด์ธุรกิจสีเขียว เป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ธุรกิจสีเขียวมีโอกาสเติบโตและประสบความสำเร็จในระยะยาว
ทำไมธุรกิจสีเขียวถึงน่าสนใจ?
- ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกธุรกิจสีเขียวจึงเป็นการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: ธุรกิจสีเขียวจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและสังคม
- ลดต้นทุน: การดำเนินธุรกิจสีเขียว เช่น การลดการใช้พลังงาน การรีไซเคิล และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานในระยะยาว
- สร้างความแตกต่าง: ธุรกิจสีเขียวจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นในตลาด
- สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่: ธุรกิจสีเขียวสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การให้บริการด้านพลังงานทดแทน หรือการให้คำปรึกษาด้านความยั่งยืน
- สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ: รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญกับการส่งเสริมธุรกิจสีเขียวและมีนโยบายสนับสนุนต่างๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนในภาคส่วนนี้
- ธุรกิจเทคโนโลยี: แอปพลิเคชันที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ระบบการจัดการขยะอัจฉริยะ
คำแนะนำจาก FDI สำหรับธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจสีเขียว
หรือต้องการพัฒนาธุรกิจที่มีอยู่ให้เป็นธุรกิจสีเขียวมากขึ้น
- วิเคราะห์ธุรกิจของคุณ: ศึกษาว่าธุรกิจของคุณมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในส่วนใดบ้าง ส่วนใดที่ต้องเร่งปรับปรุง หรือส่วนใดจำเป็นต้องมีแผนรองรับ และในส่วนใดของธุรกิจที่ไม่มีความเชี่ยวชาญต้องการที่ปรึกษาในการดำเนินการ
- กำหนดเป้าหมาย: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกันในองค์กร มีวิสัยทัศน์ในทิศทางเดียวกัน มองเห็นภาพที่ต้องการให้เป็นธุรกิจสีเขียวร่วมกัน ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- วางแผนกลยุทธ์: พัฒนากลยุทธ์ ปรับกลยุทธ์ที่ทำอยู่ให้สอดคล้องกันที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
- การดำเนินการ : เริ่มต้นดำเนินการตามแผนที่วางไว้ ระบุ Scope ที่ชัดเจนจะช่วยให้เห็นภาพงานชัดเจนมากขึ้น
- ติดตามผล: การวัดผลที่ชัดเจน เปรียบเทียบและติดตามผลลัพธ์ ปรับปรุงแผนงานอย่างสม่ำเสมอ
“ธุรกิจสีเขียวไม่เพียงแต่เป็นการทำธุรกิจที่ยั่งยืน แต่ยังเป็นการสร้างโลกที่ดีขึ้นให้กับคนรุ่นหลังอีกด้วย”
FDI Accounting & Advisory ที่ปรึกษาทางธุรกิจอย่างครบวงจร ง่าย ครบ จบ ในที่เดียว!
ทุกธุรกิจเติบโตได้ ง่ายนิดเดียว เพียงปรึกษา FDI บริการครบ ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์เชิงลึกในหลากหลายธุรกิจ ตอบโจทย์ในทุกธุรกิจ ทันสมัย รวดเร็ว บริการทุกท่านด้วยความยินดี เราพร้อมที่จะมอบประสบการณ์และส่งต่อคุณค่าที่ดีที่สุดให้กับทุกท่าน
ช่องทางติดต่อ
-
Facebook : FDI Group – Business Consulting
-
Line : @fdigroup
-
Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
-
E-mail : reception@fdi.co.th
-
Website : www.fdi.co.th