เปรียบเทียบ Visa Work Permit กับ 4 ประเทศยอดนิยม ใครมีแพลนอยากไปทำงานต่างประเทศต้องอ่าน !
การทำงานในต่างประเทศเป็นความฝันของใครหลายคน ด้วยหลากหลายเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในชีวิต การเพิ่มทักษะทางอาชีพ หรือแสวงหาโอกาสที่ดีกว่า
FDI บริการให้คำปรึกษา ช่วยวางแผน ด้านการศึกษาต่อ และการทำงานในต่างประเทศ หากท่านใดกำลังต้องการข้อมูลเชิงลึก เทคนิค แนวทาง เราให้คำปรึกษาเบื้องต้น ในด้าน Visa & Work Permit เริ่มต้นราคาโปรโมชั่นเพียง 1,500 ฿ สามารถให้คำปรึกษาทั้งทาง Online หรือ Onsite ที่บริษัทได้ หากสนใจบริการนี้ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำนัดหมายได้ที่ @fdigroup
แต่การจะทำงานในต่างประเทศได้ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือการยื่นขอ Visa และ Work Permit ซึ่งในแต่ละประเทศนั้น จะมีกฎเกณฑ์และขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไป โดยในบทความนี้ได้รวบรวมและเปรียบเทียบข้อมูลที่สำคัญของ Visa Work Permit ใน 4 ประเทศยอดนิยม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (USA), สหราชอาณาจักร (UK), ออสเตรเลีย (Australia) และ ญี่ปุ่น (Japan) หากใครที่กำลังมีเป้าหมายอยากไปทำงานในประเทศเหล่านี้ ต้องห้ามพลาด !
- อ่านต่อ !! บริการให้คำปรึกษาขอใบอนุญาต FBL ชาวต่างชาติมาทำงานในไทย
- อ่านต่อ !! บริการให้คำปรึกษาการขอ Visa & Work Permit
ถ้าหากใครที่กำลังมองหาโอกาสในการไปทำงานที่ต่างประเทศ ในการตามหาความฝัน เป้าหมายในชีวิต เราเชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่ดีอีกขั้นในการเติบโต ซึ่งการไปทำงานในต่างแดนนั้นก็จะมีข้อดีและข้อเสีย แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาในหลากหลายเหตุผลร่วมด้วยเช่นเดียวกัน
ข้อดีการไปทำงานในต่างประเทศ
- ได้ทำงานในบริษัทระดับโลก หรือระดับนานาชาติ
- ค่าตอบแทนสูง รวมถึงสวัสดิการต่างๆ คุ้มค่ามากกว่าไทย
- ประสบการณ์ในชีวิตและโอกาสในการเรียนรู้ระบบงาน วัฒนธรรมต่างแดน
ข้อเสียการไปทำงานในต่างประเทศ
- ต้องมีการเตรียมตัวและวางแผนล่วงหน้าในระยะเวลาที่นาน
- ต้องห่างไกลจากครอบครัว ญาติพี่น้อง
- สภาพแวดล้อม สภาพอากาศที่แตกต่างจากที่เคยใช้ชีวิต
เจาะข้อมูล VISA รายละเอียดในแต่ละประเทศ
1. สหรัฐอเมริกา (USA)
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีโอกาสทางอาชีพมากมาย โดยเฉพาะในสาขาเทคโนโลยี การเงิน และการแพทย์ อย่างไรก็ตาม การขอ Visa ทำงานในสหรัฐอเมริกาค่อนข้างซับซ้อนและมีหลายประเภท
ประเภท Visa ทำงานที่นิยม
- H-1B Visa: สำหรับผู้ที่มีทักษะเฉพาะทาง เช่น วิศวกร นักโปรแกรมเมอร์ หรือนักวิทยาศาสตร์ ต้องมีนายจ้างเป็นผู้สนับสนุน และมีจำนวนจำกัดในแต่ละปี
- L-1 Visa: สำหรับผู้ที่ถูกย้ายไปทำงานในสาขาเดียวกันกับบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา
- O-1 Visa: สำหรับผู้ที่มีความสามารถพิเศษในสาขาต่างๆ เช่น ศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือกีฬา
ข้อดี
- โอกาสทางอาชีพสูง โดยเฉพาะใน Silicon Valley
- ค่าจ้างและสวัสดิการดี
ข้อเสีย
- กระบวนการขอ Visa ยาวนานและแข่งขันสูง
- จำนวน Visa มีจำกัด (เช่น H-1B)
ระยะเวลา
- H-1B Visa: 3 ปี และต่ออายุได้สูงสุด 6 ปี
- L-1 Visa: 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับประเภท
2. สหราชอาณาจักร (UK)
สหราชอาณาจักรเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีโอกาสทางอาชีพมากมาย โดยเฉพาะในลอนดอน ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินและการค้าของโลก
ประเภท Visa ทำงานที่นิยม
- Skilled Worker Visa: สำหรับผู้ที่มีทักษะเฉพาะทางและมีนายจ้างใน UK เป็นผู้สนับสนุน
- Intra-Company Transfer Visa: สำหรับผู้ที่ถูกย้ายไปทำงานในบริษัทเดียวกันใน UK
- Global Talent Visa: สำหรับผู้ที่มีความสามารถพิเศษในสาขาวิทยาศาสตร์ ศิลปะ หรือเทคโนโลยี
ข้อดี
- ระบบ Visa ชัดเจนและโปร่งใส
- มีเส้นทางสู่การขอ Permanent Residency (ถิ่นที่อยู่ถาวร)
ข้อเสีย
- ค่าครองชีพสูง โดยเฉพาะในลอนดอน
- ต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษ (IELTS) ในระดับที่กำหนด
ระยะเวลา
- Skilled Worker Visa: 5 ปี และสามารถขอ Permanent Residency ได้หลังจากนั้น
3. ออสเตรเลีย (Australia)
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตสูง และเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานและใช้ชีวิตในต่างประเทศ
ประเภท Visa ทำงานที่นิยม
- Temporary Skill Shortage Visa (Subclass 482): สำหรับผู้ที่มีทักษะที่ออสเตรเลียต้องการ
- Skilled Independent Visa (Subclass 189): สำหรับผู้ที่มีทักษะและไม่จำเป็นต้องมีนายจ้างสนับสนุน
- Employer Nomination Scheme (Subclass 186): สำหรับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากนายจ้าง
ข้อดี
- คุณภาพชีวิตดี ค่าจ้างสูง
- มีระบบคะแนน (Points Test) ที่ชัดเจน
ข้อเสีย
- กระบวนการขอ Visa ค่อนข้างยาวนาน
- ต้องผ่านการประเมินทักษะ (Skills Assessment)
ระยะเวลา
- Subclass 482: 2-4 ปี
- Subclass 189: ถาวร (Permanent Residency)
4. ญี่ปุ่น (Japan)
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการทำงานที่เข้มข้น แต่ก็มีโอกาสทางอาชีพมากมาย โดยเฉพาะในสาขาเทคโนโลยีและวิศวกรรม
ประเภท Visa ทำงานที่นิยม
- Engineer/Specialist in Humanities/International Services Visa: สำหรับผู้ที่มีทักษะเฉพาะทาง เช่น วิศวกร นักแปล หรือผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจระหว่างประเทศ
- Intra-Company Transferee Visa: สำหรับผู้ที่ถูกย้ายไปทำงานในบริษัทเดียวกันในญี่ปุ่น
- Highly Skilled Professional Visa: สำหรับผู้ที่มีทักษะสูงและมีคะแนนตามระบบคะแนนของญี่ปุ่น
ข้อดี
- โอกาสทางอาชีพในสาขาเทคโนโลยีสูง
- มีระบบคะแนนสำหรับผู้ที่มีทักษะสูง
ข้อเสีย
- วัฒนธรรมการทำงานที่เข้มข้นและเคร่งครัด
- ต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับหนึ่ง
ระยะเวลา
- Engineer/Specialist Visa: 1-5 ปี
- Highly Skilled Professional Visa: 5 ปี และสามารถขอ Permanent Residency ได้เร็วขึ้น
สรุปข้อดีข้อเสียของการขอวีซ่าทำงานในแต่ละประเทศ
คำแนะนำเพิ่มเติมในการยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน
ด้านทั่วไป
- เตรียมเอกสารให้พร้อม: ทุกประเทศต้องการเอกสารที่ครบถ้วน เช่น หนังสือเดินทาง ประวัติการทำงาน และใบรับรองการศึกษา
- ศึกษาข้อมูลล่าสุด: กฎหมาย Visa และ Work Permit มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ควรตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของแต่ละประเทศ
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากกระบวนการซับซ้อน การปรึกษานักกฎหมายหรือที่ปรึกษาด้าน Visa อาจช่วยลดความเสี่ยงได้
ข้อแนะนำในการเลือกประเทศ
- หากต้องการเข้าทำงานในบริษัทเทคโนโลยีหรือวิศวกรรม USA และ Japan เป็นตัวเลือกที่ดี
- หากต้องการอาศัยอยู่ในยุโรปและทำงานในองค์กรที่มีระบบสนับสนุนชัดเจน UK เหมาะสม
- หากต้องการมีโอกาสได้พำนักระยะยาวและสมัครเป็นพลเมืองในอนาคต Australia เป็นทางเลือกที่ดี
- หากต้องการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีวัฒนธรรมและภาษาเฉพาะตัว Japan เป็นประเทศที่น่าสนใจ
- USA : เหมาะกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ได้รับการสนับสนุนจากนายจ้าง แต่การแข่งขันสูง
- UK : มีทางเลือกสำหรับแรงงานทักษะสูงและแรงงานชั่วคราว โอกาสขอพำนักถาวรพอสมควร
- Australia : ระบบคะแนนช่วยให้มีโอกาสพำนักถาวรได้ง่าย โดยเฉพาะผู้มีทักษะในอาชีพที่ขาดแคลน
- Japan : เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำงานระยะยาวในสาขาเฉพาะและสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้
การเลือกประเทศสำหรับการทำงานขึ้นอยู่กับโอกาสในการได้วีซ่า ลักษณะงาน และแผนการในอนาคตของแต่ละบุคคล หากต้องการโอกาสพำนักถาวร ออสเตรเลีย เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ส่วน สหรัฐอเมริกา อาจต้องเผชิญกับการแข่งขันสูงมาก
บริการให้คำปรึกษาด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงานสำหรับชาวต่างชาติและชาวไทย
- ช่วยเหลือการจัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าในต่างประเทศ
ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ สามารถให้คำแนะนำได้อย่างตรงจุด ด้วยระยะเวลาที่รวดเร็ว พร้อมค่าบริการที่เหมาะสมในการดำเนินการ
- ประสานงานด้านการรับรองเอกสารต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในต่างประเทศ ทั้งสำหรับการขอใบอนุญาตการทำงาน, ลดหย่อนภาษี, จดจัดตั้งบริษัท ฯลฯ
เอกสารที่รับดำเนินการ ได้แก่ ใบรับรองผลตรวจประวัติอาชญากรรม, หนังสือเดินทาง, วุฒิการศึกษา, หนังสือรับรองประสบการณ์การทำงาน, ผลตรวจสุขภาพ, สูติบัตร, ทะเบียนสมรส, ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล, หนังสือรับรองบริษัท เป็นต้น
ช่องทางติดต่อ
- Facebook : FDI Group – Business Consulting
- Line : @fdigroup
- Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
- E-mail : reception@fdi.co.th
- Website : www.fdi.co.th
บทความที่น่าสนใจ
Q&A ตอบคำถามทุกข้อเกี่ยวกับ วีซ่าทำงานในไทย
วีซ่าทำงานในไทย เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการทำงานในประเทศไทย บทความนี้จะตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวีซ่าประเภทนี้...
Read Moreขั้นตอน การทำวีซ่า คู่มือฉบับสมบูรณ์ !
การเดินทางไปต่างประเทศในปัจจุบัน หลายๆ ประเทศจำเป็นต้องขอวีซ่าก่อนเข้าประเทศ...
Read More