IBC (International Business Center) คืออะไร ? สิทธิประโยชน์และโอกาสธุรกิจสำหรับนักลงทุนต่างชาติในไทย

IBC (International Business Center) คืออะไร ? สิทธิประโยชน์และโอกาสธุรกิจสำหรับนักลงทุนต่างชาติในไทย

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักลงทุนต่างชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยศักยภาพด้านภูมิศาสตร์ ทรัพยากรมนุษย์ และโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ หนึ่งในมาตรการสำคัญที่รัฐบาลไทยใช้ส่งเสริมการลงทุน คือการจัดตั้งโครงการ IBC (International Business Center) ในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับ IBC  พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษี เงื่อนไข และโอกาสธุรกิจสำหรับนักลงทุนต่างชาติในไทย

IBC (International Business Center) คืออะไร ?

IBC หรือ ศูนย์ธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business Center) คือ รูปแบบการส่งเสริมการลงทุนที่ภาครัฐของไทย โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมให้บริษัทข้ามชาติจัดตั้งศูนย์กลางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และให้บริการแก่บริษัทในเครือทั้งในและต่างประเทศ เช่น บริการบริหารจัดการ การเงิน วิศวกรรม และอื่น ๆ โครงการ IBC เริ่มต้นใช้อย่างเป็นทางการในปี 2561 แทนที่โครงการเก่าอย่าง ROH (Regional Operating Headquarters) และ IHQ (International Headquarters) ที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านั้น

จุดประสงค์หลักของ IBC (International Business Center) 

  • เพื่อส่งเสริมให้บริษัทต่างชาติจัดตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในประเทศไทยให้เกิดการลงทุนดำเนินธุรกิจในไทยและต่างประเทศ 
  • ดึงดูดให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการจัดการที่ดีด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ในไทย
  • ส่งเสริมการจ้างงานคนไทยและการพัฒนาทักษะบุคลากรไทยที่มีศักยภาพ
  • ส่งเสริมเศรษฐกิจการลงทุนในภาพรวมให้ดีขึ้น

สิทธิประโยชน์ทางภาษีด้านใดบ้าง ที่บริษัทต่างชาติได้รับจาก IBC 

หนึ่งในแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ IBC เป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติ คือ สิทธิประโยชน์ด้านภาษี ที่สามารถลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างชัดเจน ดังนี้

1. อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax)

สำหรับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลพิเศษ ขึ้นอยู่กับมูลค่าค่าใช้จ่ายภายในประเทศของบริษัท ซึ่งแบ่งเป็นดังนี้ 

2. ยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)

  • สำหรับเงินปันผลหรือค่าบริการที่จ่ายให้กับบริษัทในเครือต่างประเทศ

3. อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาพิเศษ

  • สำหรับผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติที่ทำงานในบริษัท IBC: 15% เป็นเวลาไม่เกิน 4 ปีสิทธิประโยชน์เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนให้บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยอย่างยั่งยืนและเป็นระบบ

อ้างอิง: กรมสรรพากร, สำนักงาน BOI – “มาตรการสนับสนุนการจัดตั้ง IBC” (2561)

 

ประเภทกิจการใดบ้าง ที่สามารถจัดตั้ง IBC ได้ 

ธุรกิจที่จะขอรับการส่งเสริมในรูปแบบ IBC ต้องดำเนินกิจการอย่างน้อยหนึ่งในประเภทต่อไปนี้ 

  • การให้บริการสนับสนุนแก่บริษัทในเครือ เช่น
    • บริการด้านการจัดการ
    • การวางแผนกลยุทธ์
    • การจัดซื้อ การตลาด และทรัพยากรบุคคล
  • การบริหารจัดการทางการเงิน (Financial Management)
    บริการวางแผนและควบคุมด้านการเงินแก่บริษัทในเครือ
  • การวิจัยและพัฒนา (R&D)
    การพัฒนาเทคโนโลยี หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
  • การอบรมและพัฒนาบุคลากร (Training Services)
    การจัดอบรมภายในองค์กรให้กับบริษัทในเครือ

 

เงื่อนไขในการขอรับสิทธิ IBC เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์จาก IBC บริษัทต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เช่น 

  • ต้องจดทะเบียนในประเทศไทย
  • มีค่าใช้จ่ายภายในประเทศไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาทต่อปี
  • มีบุคลากรประจำไม่น้อยกว่า 10 คน (หรือ 5 คน สำหรับบริษัทที่ให้บริการทางการเงินเท่านั้น)
  • ให้บริการแก่บริษัทในเครือในต่างประเทศอย่างน้อย 1 บริษัท
  • ต้องมีสัญญาหรือเอกสารแสดงความสัมพันธ์กับบริษัทในเครือ

โดยสรุป โครงการ IBC โอกาสทางธุรกิจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

โครงการ IBC เปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติสามารถขยายฐานปฏิบัติการในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีหากลงทุนในไทยไม่ว่าจะเป็นในเรื่อง

  • ภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม ไทยตั้งอยู่ใจกลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมโยงไปยัง CLMV และจีนตอนใต้
  • ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ  แรงงานมีทักษะ และค่าจ้างสามารถแข่งขันได้
  • โครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาแล้ว ทั้งด้านโลจิสติกส์ โทรคมนาคม และนิคมอุตสาหกรรม
  • แรงจูงใจด้านภาษี  ลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ
  • มีความสะดวกในการดำเนินงานที่ค่อนข้างมีความศักยภาพและความพร้อมสูง

โดยสรุปแล้ว  IBC (International Business Center) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนต่างชาติสามารถดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการใช้ประโยชน์จากแรงจูงใจด้านภาษีที่มอบให้โดยรัฐ เหมาะกับบริษัทที่ต้องการจัดตั้งศูนย์กลางเพื่อให้บริการแก่บริษัทในเครือระดับภูมิภาค หรือระดับโลก

การวางแผนตั้งแต่เริ่มต้นอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการเลือกประเภทบริการและการวางโครงสร้างภาษี จะช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จาก IBC ได้สูงสุด และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

ปรึกษาเราตอนนี้ ! พร้อมให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญ ด้านจดจัดตั้งบริษัทและขอใบอนุญาตธุรกิจ

  • เราพร้อมให้คำปรึกษาธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการจดจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย การยื่นขอ BOI , การยื่นขอ FBL , FBC พร้อมใบอนุญาตอื่น ๆ ครบวงจร 
  • บริการระบบสรรหาบุคลากรในการดำเนินงานในทุกตำแหน่ง 
  • บริการระบบบัญชีและวางแผนภาษีนิติบุคคล
  • บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานสำหรับชาวต่างชาติ
  • และให้คำปรึกษาธุรกิจในการดำเนินงานให้เป็นไปด้วยความราบรื่น 

ช่องทางติดต่อ 

  • Facebook : FDI Group – Business Consulting
  • Line : @fdigroup
  • Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
  • E-mail : infojob@fdi.co.th
  • Website : www.fdi.co.th

 

บทความที่น่าสนใจ