Premium T-VER คืออะไร และ แตกต่างจาก T-VER Standard อย่างไร
สำหรับ Premium T-VER นั้น ทางองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ได้พัฒนาโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ขึ้น เพื่อเป็นกลไกในภาคสมัครใจที่สนับสนุนให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทย โดยความสมัครใจ และสามารถนำปริมาณการปล่อยและ/หรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจก หรือที่เรียกว่า “คาร์บอนเครดิต” นำไปแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายได้ ซึ่งเป็นกลไกที่ให้การรับรองคาร์บอนเครดิต โดยที่สามารถนําไปใช้ในการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในระดับองค์กร ผลิตภัณฑ์ การจัดประชุม/สัมมนา งานอีเว้นท์ และบุคคล ได้ โดยปัจจุบันโครงการ T-VER มี 2 รูปแบบให้เลือกดำเนินการคือ แบบ Standard T-VER และแบบ Premium T-VER นั่นเอง
โดยสำหรับ Premium T-VER ถือว่าเป็นทางเลือกให้กับผู้พัฒนาโครงการและองค์กรที่ต้องการคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพสูง (High Quality Credits) ซึ่งส่วนนี้ มีความสอดล้องกับ The Core Carbon Principles (CCPs) และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยคาร์บอนเครดิตจาก Premium T-VER สามารถนำไปใช้เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและรายงานผลการดำเนินงานขององค์กร รวมทั้งการซื้อขายคาร์บอนเครดิตไปยังต่างประเทศ โดยผู้ซื้อมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutral หรือ Net Zero ขององค์กร แต่หากนำไปใช้กับวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศต้องได้รับหนังสืออนุญาตการใช้คาร์บอนเครดิต
ประเภทกลไกราคาคาร์บอน
เงื่อนไขโครงการ Premium T-VER
ผู้พัฒนาโครงการต้องเริ่มกระบวนการพัฒนากิจกรรมโครงการ T–VER ก่อนวันเริ่มดำเนินโครงการ (Project start date)
- โครงการประเภทที่ 1 – 12 ต้องขอขึ้นทะเบียนภายใน 3 ปี นับจากวันเริ่มดำเนินโครงการ
- โครงการประเภทที่ 13 และ 14 ต้องขอขึ้นทะเบียนภายใน 5 ปี นับจากวันเริ่มดำเนินโครงการ
คำแนะนำจาก FDI เริ่มอย่างไรให้ไป Premium T-VER
การเริ่มต้นทำ Premium T-VER คาร์บอนเครดิต ในประเทศไทยนั้น เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างละเอียด และมีขั้นตอนหลายขั้นตอนที่ต้องดำเนินการเพื่อให้โครงการได้รับการรับรอง และสามารถออกคาร์บอนเครดิตได้ โดยขั้นตอนหลัก ๆ จะประกอบไปด้วยการออกแบบโครงการ, การคำนวณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, การตรวจสอบจากบุคคลภายนอก, และการออกคาร์บอนเครดิตที่สามารถนำไปซื้อขายได้
โดยสรุปประโยชน์จาก Premium T-VER
1.ช่วยสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) เพื่อมุ่งไปสู่เศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ
2.คาร์บอนเครดิตที่ได้จากการทำโครงการ นำไปชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
3.สามารถนำไปใช้บรรลุเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับสากล ตามข้อ 6.2 ของความตกลงปารีส และแนวทางการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิต และช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจก (Net Zero) ได้อย่างรวดเร็วขึ้นหรือตามกรอบระยะเวลา
หากธุรกิจของคุณมองเห็นถึงโอกาสที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับเรา ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจสีเขียวร่วมกัน เพื่อสร้างความยั่งยืน และร่วมกันส่งต่อคุณค่าที่ดีให้แก่สังคม
บริการที่ปรึกษาธุรกิจสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
- บริการฝึกอบรมในด้านที่เกี่ยวกับ Carbon Management
- ให้คำปรึกษา BCG (Bio-circular-Green Economy Business Model) และ ESG ในระยะยาว
- บริการจัดทำและประเมิน Carbon Footprint and Carbon Credit
- บริการจัดทำและให้คำปรึกษา Carbon Net Zero Event
- บริการ Energy Dashboard Platform ครอบคลุม Scope 1 , 2 และ 3
FDI Accounting & Advisory ที่ปรึกษาทางธุรกิจอย่างครบวงวจร ง่าย ครบ จบ ในที่เดียว!
พัฒนาธุรกิจให้เติบโต ไปพร้อมกับเรา และร่วมส่งต่อคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืนในระยะยาวไปพร้อมกัน
ช่องทางติดต่อ
- Facebook : FDI Group – Business Consulting
- Line : @fdigroup
- Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
- E-mail : reception@fdi.co.th
- Website : www.fdi.co.th