ไม่รู้ไม่ได้แล้ว ! ก่อนจดทะเบียนการค้าต้องรู้เรื่องนี้ เอกสารต้องเตรียมอะไรบ้าง ?

ไม่รู้ไม่ได้แล้ว ! ก่อนจดทะเบียนการค้าต้องรู้เรื่องนี้ เอกสารต้องเตรียมอะไรบ้าง ?

ทำไมต้องมีการจดทะเบียนการค้า ถ้าไม่จดทำได้หรือไม่ ? 

การจดทะเบียนการค้า คือ การที่ผู้ประกอบการธุรกิจหรือผู้มีรายได้จากการขายสินค้า/บริการ แจ้งชื่อและรายละเอียดกิจการของตนต่อสำนักงานพาณิชย์ หรือเทศบาลท้องถิ่น เพื่อให้ได้รับ “ทะเบียนพาณิชย์” ซึ่งเป็นเอกสารแสดงว่าบุคคลนั้นประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ใครมีหน้าที่ต้องจดทะเบียนการค้า

ตาม พ.ร.บ.ทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผู้ที่ประกอบกิจการค้าหรือบริการเพื่อหารายได้ ต้องทำการจดทะเบียนการค้าภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มกิจการ โดยผู้ที่มีหน้าที่ในการจดทะเบียนพาณิชย์ตามที่กรมธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ได้แบ่งไว้มีทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้

  1. บุคคลธรรมดาคนเดียวหรือกิจการที่มีเจ้าของคนเดียว
  2. บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด
  3. ห้างหุ้นส่วนสามัญ
  4. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด
  5. นิติบุคคลต่างประเทศที่มาตั้งสำนักงานสาขาภายในประเทศไทย

1. กิจการที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ธรรมดา (บุคคลธรรมดา)

กลุ่มนี้คือ บุคคลทั่วไปที่ประกอบธุรกิจ ในนามตนเอง โดยไม่มีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน)

ตัวอย่างกิจการที่เข้าข่าย

  • ร้านขายของชำ ร้านค้าปลีก-ส่ง
    ร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่
  • ร้านนวดแผนไทย ร้านเสริมสวย
  • ร้านซักอบรีด
    ธุรกิจขายของออนไลน์ (Shopee, Facebook, IG, Tiktok ฯลฯ)
  • รับทำเว็บไซต์ ออกแบบกราฟิก รับพิมพ์งาน
  • ฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ประจำหรือประกอบธุรกิจชัดเจน

หมายเหตุ : กรณีขายของออนไลน์ หากเป็นการค้าต่อเนื่อง มีรายได้ประจำ และโปรโมทธุรกิจ ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ธรรมดาตามกฎหมาย

2. กิจการที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์นิติบุคคล

กลุ่มนี้คือกิจการที่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแล้ว และต้องยื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์เพิ่มเติมเพื่อแสดงว่ากิจการมีการดำเนินการจริง

ประเภทนิติบุคคลที่ต้องจดทะเบียน

  • บริษัทจำกัด (บจก.)
  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ข้อดี-ข้อเสียการจด หจก.
  • ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน
  • กิจการร่วมค้า (Joint Venture)
  • บริษัทต่างชาติที่มาจดทะเบียนเป็นสาขาในไทย

ประเภทธุรกิจของนิติบุคคลที่ต้องจดทะเบียนการค้า

  • ค้าส่ง ค้าปลีก
  • รับเหมาก่อสร้าง ผลิตสินค้า
  • บริการ เช่น ที่ปรึกษา วิศวกรรม ออกแบบระบบ
  • โรงงานแปรรูปสินค้า อาหาร เสื้อผ้า
  • ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
  • ธุรกิจเทคโนโลยี เช่น Software, App, Platform ฯลฯ

กิจการใดบ้างที่ไม่ต้องจดทะเบียนการค้า 

กิจการบางประเภท ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนการค้า เนื่องจากลักษณะการดำเนินกิจการ ไม่เข้าข่าย “การค้าเพื่อแสวงหากำไร” แบบธุรกิจทั่วไป หรืออยู่ภายใต้กฎหมายเฉพาะด้านอื่น ๆ ที่ควบคุมอยู่แล้ว

  1. พาณิชยกิจเพื่อการบำรุงศาสนาหรือเพื่อการกุศล
  2. พาณิชยกิจการค้าเร่หรือการค้าแผงลอย
  3. พาณิชยกิจของกระทรวง ทบวง กรม
  4. พาณิชยกิจของมูลนิธิ สมาคม หรือสหกรณ์
  5. พาณิชยกิจของนิติบุคคล ซึ่งได้มีพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้น
  6. พาณิชยกิจของกลุ่มเกษตรกร (จดทะเบียนตาม ปว.141 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2515)

เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนการค้า 

การจดทะเบียนการค้าสามารถจดให้เสร็จภายในวันเดียวได้ ถ้าหากมีการเตรียมเอกสารที่ครบถ้วน โดยเอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมมีดังนี้ 

    1. แบบฟอร์ม ทพ. (ที่ได้รับจากสำนักงานทะเบียน)
    2. สำเนาบัตรประชาชนผู้ประกอบการ
    3. สำเนาทะเบียนบ้านผู้ประกอบการ
    4. สำเนาสัญญาเช่าหรือหลักฐานแสดงสิทธิ์ในสถานที่ประกอบการ
    5. แผนที่ตั้งสถานที่ประกอบการ
    6. หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการ)
  • รูปถ่ายสถานประกอบการ (บางแห่งอาจขอเพิ่มเติม)

กรณีเป็นชาวต่างชาติ ต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม

  • หนังสือเดินทาง
  • ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
  • วีซ่าถูกต้องตามกฎหมาย

สถานที่ยื่นจดทะเบียนการค้า ต้องไปจดทะเบียนการค้าที่ไหน ? 

 1. สำหรับสถานประกอบการที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร

หากสถานประกอบการของคุณอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ให้ไปที่

  • สำนักงานเขต ที่ตั้งของกิจการ
    → ยื่นที่ “ฝ่ายทะเบียนพาณิชย์” ของสำนักงานเขต เช่น  หากร้านค้าตั้งอยู่ในเขตดินแดง → ยื่นที่ สำนักงานเขตดินแดง

ต้องรู้! ต้องยื่นเอกสารในเขตที่กิจการตั้งอยู่เท่านั้น ไม่สามารถไปยื่นจดทะเบียนการค้าในเขตอื่นๆ ได้

2. สำหรับสถานประกอบการที่อยู่ในต่างจังหวัด

หากสถานประกอบการอยู่ต่างจังหวัด ให้ไปที่

  • สำนักงานพาณิชย์จังหวัด (สำนักงานพาณิชย์จังหวัดที่กิจการตั้งอยู่)
    เช่น ร้านค้าตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ → ยื่นที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ 

การยื่นในรูปแบบการยื่นออนไลน์

คุณสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนการค้าได้ผ่านระบบ DBD e-Registration ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

  • เว็บไซต์: https://ereg.dbd.go.th/
  • ใช้ได้สำหรับบางประเภทธุรกิจเท่านั้น (โดยเฉพาะนิติบุคคล)
  • ผู้ยื่นต้องมีลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) เพื่อยืนยันตัวตน

ข้อกำหนดที่ต้องทราบสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องปฏิบัติตาม 

กรมธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดไว้ ให้ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม โดยสามารถทำตามวิธีการต่าง ๆ ได้ดังนี้ 

1.ต้องมีการจดทะเบียนการค้าภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มประกอบธุรกิจ หรือมีการเปลี่ยนแปลงรายการจดทะเบียน และยกเลิกการประกอบธุรกิจ 

2.ให้แสดงใบทะเบียนพาณิชย์ หรือใบแทนทะเบียนพาณิชย์ไว้ภายในสำนักงานอย่างเปิดเผย เห็นชัดเจน 

3.กรณีใบทะเบียนพาณิชย์สูญหายหรือชำรุด ต้องยื่นคำขอใหม่ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่สูญหายหรือชำรุด

4.ต้องมีป้ายชื่อที่ใช้ในการประกอบพาณิชยกิจ ต้องมีการจัดตั้งป้ายภายใน 30 วัน ต้องจัดให้มีทั้งชื่อป้ายสำนักงานใหญ่ และสำนักงานสาขาอื่น ๆ โดยระบุให้เป็นอักษรไทยที่ชัดเจน อ่านง่ายเห็นชัด ที่สำคัญต้องตรงกับชื่อที่ได้ทำการจดทะเบียนไว้ หากกรณีที่เป็นสาขาต้องมีคำว่า “สาขา” กำกับไว้ด้วย

5.การตรวจสอบสำนักงาน ในกรณีที่ต้องตรวจสอบสำนักงาน เจ้าของธุรกิจต้องยืนยอมให้เจ้าหน้าที่ นายทะเบียน เข้าตรวจสอบภายในสำนักงาน 

การจดทะเบียนการค้ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการ เพราะเป็นหลักฐานทางกฎหมายที่แสดงถึงการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องและโปร่งใส เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับกิจการทั้งต่อลูกค้าและคู่ค้า ช่วยให้สามารถเปิดบัญชีธุรกิจ ขอสินเชื่อ หรือเข้าร่วมโครงการสนับสนุนจากภาครัฐได้  นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการยื่นขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) และการเสียภาษีอย่างถูกต้องตามระบบภาษีของกรมสรรพากร การมีทะเบียนการค้าทำให้ธุรกิจสามารถขยายเติบโตได้ในระบบอย่างยั่งยืน ช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมายในกรณีมีข้อพิพาทต่างๆ  และยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงตลาดออนไลน์หรือระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย และถ้าหากอยากให้ธุรกิจของคุณดำเนินการไปได้อย่างราบรื่น FDI มีบริการยื่นขอเอกสารจดทะเบียนการค้า ภ.พ. 20 รวมถึงการขอเอกสารใบอนุญาต ในการประกอบธุรกิจอื่น ๆ ให้เราเป็นผู้ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างไม่มีสะดุด 

FDI ให้บริการจดทะเบียน ใบ ภ.พ. 20 และใบอนุญาตอื่น ๆ ครบวงจร

FDI เราคือผู้เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาด้านการจดทะเบียนบริษัท และให้บริการจดทะเบียนใบอนุญาต ภพ.20 | ภพ.30 | และใบอนุญาตธุรกิจทุกประเภทในการดำเนินการในประเทศไทย เราให้บริการดำเนินการรวดเร็ว ถูกต้องตามกฎหมาย ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ดูแลครบทุกขั้นตอน พร้อมให้คำปรึกษา สามารถติดต่อเราเพื่อเริ่มต้นธุรกิจของคุณอย่างมั่นใจ

ช่องทางติดต่อ 

  • Facebook : FDI Group – Business Consulting
  • Line : @fdigroup
  • Phone : 02-642-6866, 02-642-6869, 02-642-6895
  • E-mail : infojob@fdi.co.th
  • Website : www.fdi.co.th

บทความที่น่าสนใจ