บทความ BCG

ตลาดราคาคาร์บอนเครดิตในไทย น่าจับตา ! แนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับตลาดโลก โอกาสใหม่ของความยั่งยืน

ประเทศไทย มีการจัดทำโครงการการลดก๊าซเรือนกระจก ภาคสมัครใจ โดยใช้ชื่อว่า Thailand Voluntary Emission Reduction Program หรือ T-VER ซึ่งมีองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) โดยเป็นหน่วยงานที่ดูแลการขึ้นทะเบียน และ การรับรองคาร์บอนเครดิต โดยเป็นกลไกคาร์บอนเครดิตในรูปแบบ Governmental Crediting Mechanism คาร์บอนเครดิตคืออะไร ราคาคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย ความสำคัญที่เราต้องรู้ คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงหรือกักเก็บได้จากการทำโครงการลดก๊าซเรือนกระจกเมื่อเทียบกับกรณีการดำเนินธุรกิจตามปกติ มีหน่วยเป็นตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq) ซึ่งปริมาณที่จะลดลงหรือกักเก็บนั้นต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐานต่าง ๆ และสามารถนำไปซื้อขายระหว่างผู้ต้องการชดเชยการปล่อยคาร์บอนและผู้ที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้  คาร์บอนเครดิต มาจากโครงการหลักๆ ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHGs) และสร้างคาร์บอนเครดิตที่สามารถนำไปซื้อขายได้ โดยทั่วไปแล้ว โครงการเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ  1. โครงการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Reduction Projects) การลดการปล่อยก๊าซในอุตสาหกรรมหรือกระบวนการผลิตมุ่งเน้นในการปรับปรุงกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การใช้พลังงานสะอาด, การใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซ , การกำจัดน้ำเสีย […]

[Update 2025] What is Carbon Tax – Why It Matters to Businesses

ภาษีคาร์บอน ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อโลกที่ดีขึ้น  ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียน ที่จะมีการจัดเก็บภาษีคาร์บอน ถัดจากสิงคโปร์ ในปัจจุบันทุกท่านคงทราบดีว่า สภาวะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น มาจากผลกระทบของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศที่มีมากขึ้น ซึ่งมีปัจจัยทั้งจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวของอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรือจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์ เป็นต้น ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศโลกในทุกพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง รุนแรงมากขึ้น อย่างที่ทุกท่านเห็นในปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในการแก้ไขเเละร่วมกันหาทางออกในการลดก๊าซเรือนกระจกก็คือ การจัดเก็บภาษีคาร์บอน เเละในบทความนี้ จะช่วยให้ทุกท่านได้เข้าใจในเรื่องของภาษีคาร์บอน การจัดเก็บภาษี ผลดีและโอกาสที่จะเกิดขึ้นต่อตัวท่านเองเเละสังคมส่วนรวมในระยะยาว ทำความรู้จัก ภาษีคาร์บอน คืออะไร? ภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) เป็นหลักการที่กำหนดให้ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะต้องจ่ายค่าปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้ง 7 ชนิด ได้แก่ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) , ไนตรัสออกไซด์(N2O) , มีเทน (CH4), ก๊าซไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFCs), ก๊าซเปอร์ฟลูออโรคาร์บอน(PFC), ก๊าซซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์ (SF6), ก๊าซไนโตรเจนไตรฟลูออไรด์ (NF3) เป็นต้น ที่เกิดจากกระบวนการผลิต การขนส่ง กิจกรรมต่างๆที่เกิดจากกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยยึดตามหลักการของ “ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย” (Polluter Pay […]

คู่มือ! การขึ้นทะเบียน โครงการคาร์บอนเครดิต อัพเดต 2025

ในยุคที่ปัญหาภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงขึ้น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของทุกภาคส่วนทั่วโลก หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ “คาร์บอนเครดิต” ซึ่งเป็นหลักประกันที่แสดงถึงปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากโครงการต่างๆ การขึ้นทะเบียนโครงการคาร์บอนเครดิตจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้โครงการเหล่านั้นได้รับการยอมรับในระดับสากลและสามารถนำคาร์บอนเครดิตไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม มาตรฐานที่สำคัญในการขึ้นทะเบียนโครงการคาร์บอนเครดิต มาตรฐานสากล: CDM (Clean Development Mechanism): กลไกที่กำหนดขึ้นภายใต้พิธีสารเกียวโต เพื่อให้ประเทศพัฒนาแล้วสามารถลงทุนในโครงการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศกำลังพัฒนา และได้รับคาร์บอนเครดิตมาชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศ VCS (Verified Carbon Standard): มาตรฐานภาคเอกชนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคสมัครใจ Gold Standard: มาตรฐานที่ให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมนอกเหนือจากการลดก๊าซเรือนกระจก มาตรฐานในประเทศไทย: T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program): โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย ดำเนินการโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือองค์การอบก. เหตุผลที่ต้องขึ้นทะเบียนโครงการคาร์บอนเครดิต การรับรองความน่าเชื่อถือ: การขึ้นทะเบียนโครงการคาร์บอนเครดิตเป็นการยืนยันว่าโครงการนั้นได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ ทำให้โครงการได้รับความน่าเชื่อถือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้บริโภค การสร้างความโปร่งใส: กระบวนการขึ้นทะเบียนจะต้องมีการตรวจสอบและรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ทำให้สาธารณชนสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและความสำเร็จของโครงการได้ การสร้างตลาดคาร์บอนเครดิต: การมีโครงการคาร์บอนเครดิตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจำนวนมากจะช่วยสร้างตลาดคาร์บอนเครดิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่เป็นธรรมและโปร่งใส การดึงดูดนักลงทุน: โครงการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตจะมีโอกาสดึงดูดนักลงทุนที่สนใจในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การสร้างแรงจูงใจในการลดก๊าซเรือนกระจก: การขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนและชุมชนต่างๆ พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน: การมีส่วนร่วมในโครงการคาร์บอนเครดิตเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนขององค์กรและประเทศชาติ […]

1 2